เมื่อพวกเรามากันครบครันแล้ว ก็ออกเดินทางวิ่งตรงไปยังเมืองสารนาถ ซึ่งต้องบอกว่าเป็นเป้าหมายของเราในวันนี้ แต่ว่าจะมีจุดกึ่งกลางอยู่ที่เมืองสะสาราม หรือว่าเมืองสหัสสารามในภาษาชัด ๆ ของเรานี่เอง เป็นวัดชื่อวัดไทยป่าฝ้าย ซึ่งเป็นจุดพักครึ่งทางของวันนี้
เมื่อรถออก ท่านเจ้าคุณกอล์ฟ - พระวิเทศวัชราจารย์ (เฉลิมชาติ ชาติวโร) เจ้าอาวาสวัดสิทธารถราชมณเฑียร เลขานุการธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล และพระครูธรรมธรวรัญญู อคฺควชิโร, ดร. พระธรรมทูตสายอินเดีย โ เนปาล ก็ช่วยกันนำทำวัตรเช้า ว่ากันยาวจนกระทั่งอุทิศส่วนกุศล แล้วก็ปล่อยให้ทุกคนได้พักผ่ น
กระผม/อาตมภาพเองที่ส่งกำลังใจอุทิศส่วนกุศลให้กับเจ้าที่เจ้าทางทั้งหมด ลืมตาขึ้นมา เห็นรถติดหนุบติดหนับ แทบจะไม่ขยับไปไหนเลย เนื่องจากว่ามีการบีบเลนลงมาเหลือเลนเดียว เพราะว่ากำลังสร้างทางซูเปอร์ไฮเวย์อยู่ ซึ่งไม่ทราบเหมือนกันว่าสร้างเสร็จแล้วหน้าตาเป็นอย่างไร ? เกรงอยู่อย่างเดียวว่าจะเป็นบริษัทจีนมาสร้างให้เท่านั้น..!
พวกเราแวะเข้าห้องน้ำกลางทาง โดยที่ห้องน้ำนั้นโดนล็อคกุญแจอยู่ เนื่องเพราะว่าถ้าปล่อยให้ชาวบ้านทั่วไปเข้าไปใช้งาน เขาก็ไม่มั่นใจว่าจะเป็นพวกวรรณะต่ำมาใช้งานหรือเปล่า ? แล้วถ้ายิ่งพวกวรรณะสูงก็ยิ่งหนักเข้าไปใหญ่ เพราะพวกนี้จะถ่ายทิ้งเอาไว้อย่างเดียว ถือว่าหน้าที่ชำระล้างไม่ใช่หน้าที่ของคนวรรณะสูงอย่างพวกเขา ต้องให้พวกคนวรรณะต่ำมาชำระล้างส้วมกันเอง..! จึงทำให้ทางเจ้าของปวดหัว ได้แต่ล็อคกุญแจเอาไว้ เมื่อพวกเราไปถึง จึงเปิดให้เข้าห้องน้ำได้
หลังจากนั้นวิ่งต่ออีกไม่นานก็มาถึงวัดไทยป่าฝ้าย ซึ่งตามกำหนดการจะมาถึงตอน ๑๐ โมงครึ่ง แต่นี่ ๐๙.๔๕ น. เราก็มาถึงแล้ว ท่านเจ้าอาวาสคือพระมหา ดร.ณัฐภูมิ สุทฺธิรํสี พรรษา ๓๕ รีบมาต้อนรับ พาพวกเราจะให้ไปฉันเพลเลย กระผม/อาตมภาพเห็นว่ามีเวลามาก จึงขอถวายผ้าป่าก่อน แล้วก็รวบรวมเงินกันตรงนั้นเอง ได้เงินไทยมา ๑๒,๐๐๐ บาท เงินรูปี ๓๐,๐๐๐ รูปี ซึ่งเป็นกระผม/อาตมภาพควักออกไปคนเดียว ๑๐,๐๐๐ รูปี..!
เมื่อถวายกันเสร็จสรรพเรียบร้อย อุทิศส่วนกุศล กรวดน้ำรับพรแล้ว ท่านพระมหา ดร.ณัฐภูมิ ก็พาพวกเราไปฉันภัตตาหารเพล โดยที่ท่านจับไมค์เล่าเรื่องราวการสร้างวัดว่า ที่นี่ก็คือป่าฝ้ายที่ภัททวัคคีย์ทั้ง ๓๐ คน มาเสาะแสวงหาหญิงงามเมือง ซึ่งขโมยเครื่องประดับของพวกตนไป ครั้นพบองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ได้รับฟังเทศน์แล้วจึงบวช กลายเป็นพระอรหันต์กันจนหมด จึงเป็นสถานที่สำคัญแห่งหนึ่งในพระพุทธศาสนา และที่นี่กำลังสร้างอาคารแฝด ซึ่งแบ่งออกเป็นการใช้ประโยชน์ถึง ๗ ประการด้วยกัน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 04:49
|