แล้วอีกสักครู่หนึ่ง น่าจะเป็นเจ้านายของเขามาตรวจงาน ทุกอย่างก็เลยเข้มงวดขึ้นมาก กระผม/อาตมภาพกับท่านปิงที่ข้ามไปแล้ว ก็ได้แต่ยืนตาปริบ ๆ ดูบรรดาพระภิกษุของคณะอื่นที่แทบจะโดนถอดจีวรค้น..! ซึ่งจะว่าไปแล้วเขาก็ทำเคร่งครัดไปตามแบบของเขาต่อหน้าเจ้านายนั่นเอง กว่าที่พวกเราจะข้ามกันมาได้ครบครัน ก็แทบจะผ่านไปเป็นชั่วโมง ๆ ทีเดียว ดังนั้น..พวกเราส่วนหนึ่งจึงไปขึ้นรถบัส เพื่อที่จะเตรียมรอคณะที่มาครบแล้ว จะได้เดินทางไปทันที
เมื่อขึ้นรถบัสครบครันแล้ว ทางด้าน "นายวิชาญ" มัคคุเทศก์ท้องถิ่น ซึ่งพูดภาษาไทยได้ค่อนข้างชัดเจน ก็ได้มอบประคำไม้ให้คนละ ๑ เส้น เป็นของที่ระลึก หรือว่าของขวัญรับหน้า พวกเราวิ่งออกจากสนามบินมา ถึงโรงแรมที่เราจะพักกันคืนนี้ เป็นเวลา ๒๐ นาทีก็ถึงแล้ว เจ้าหน้าที่ต้อนรับพูดภาษาไทยชัดมาก ไม่ว่าจะเป็น "สวัสดีครับ" "ยินดีต้อนรับครับ" "ห้องน้ำอยู่ทางนี้ครับ" "ห้องอาหารอยู่ข้างล่างครับ"
กระผม/อาตมภาพเองไปถึง เขาจัดอาหารเตรียมไว้ให้โต๊พระเรียบร้อยแล้ว จึงทำการโกยอาหารลงจานใหญ่ชนิดอย่างละครึ่งหนึ่ง พูดง่าย ๆ ว่าเข้าโครงการหารสองกับท่านปิง ฉันแล้วพอดีน้องการ์ตูนเอาคีย์การ์ดเข้าห้องพักมา จึงได้ขึ้นห้องพักไป เพื่อที่จะพักผ่อนสักครู่หนึ่ง ก่อนที่จะลงไปเพื่อที่จะเดินทางไปตามโปรแกรมของเรา
พวกเราออกจากโรงแรมที่พัก ชื่อไพเราะมากคือ DHAMMA GRAND HOTEL & RESORT ตรงไปยังบ้านนางสุชาดา ที่ระยะทางก็ไม่ได้ไกล แต่ว่าถนนหนทางคับแคบมาก ทำให้รถบัสของเราทั้งสองคันนั้นไปได้ยากเป็นอย่างยิ่ง ในที่สุดเมื่อไปถึง ก็ยังต้องรอรถอื่นเขาขยับหลีกแล้วหลีกอีก ท้ายที่สุดจึงตัดสินใจเดินเข้าไปด้านในกัน
ท่านเจ้าคุณกอล์ฟ หรือที่คนส่วนมากรู้จักในนาม "พระครูอินเดีย" แต่ปัจจุบันนี้เป็นท่านเจ้าคุณพระวิเทศวัชราจารย์ (เฉลิมชาติ ชาติวโร) เจ้าอาวาสวัดสิทธารถราชมณเฑียร เลขานุการธรรมทูตสายอินเดีย - เนปาล ท่านได้เมตตาบรรยายให้พวกเราฟังในพื้นที่จริง ด้วยการชี้ให้ดูภูเขาดงคสิริ ซึ่งเห็นลิบ ๆ อยู่ด้านหน้า พร้อมกับบอกว่า นั่นเป็นสถานที่ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าทำทุกรกิริยาอยู่ถึง ๖ ปี หลังจากนั้นก็เสด็จลงไปยังบริเวณอัชชปาลนิโครธ ซึ่งเป็นสถานที่ที่นางสุชาดาได้ถวายข้าวมธุปายาส โดยที่เราจะเห็นเจดีย์บริเวณวัดบ้านของนางสุชาดาตั้งอยู่ไม่ไกล
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 02:43
|