เรื่องพวกนี้ต้องถือว่าเป็นหน้าที่ของพลเมืองทุกคน เสียดายที่พระภิกษุสงฆ์สามเณรของเราโดนจำกัดสิทธิ์ จำกัดแบบที่เขาจำกัดให้ ทั้ง ๆ ที่กระผม/อาตมภาพสอบถามครูบาอาจารย์แล้วว่า "เอากฎหมายข้อไหนมาห้ามพระสงฆ์เลือกตั้ง ?" ครูบาอาจารย์ตอบไม่ได้ เนื่องเพราะว่าพระภิกษุสงฆ์สามเณรของเราก็คือพลเมืองไทยคนหนึ่ง
พูดง่าย ๆ ว่าถ้าอยากให้ผิด ก็ยัดฐานะบรรดาเจ้าอาวาส เจ้าคณะปกครองว่าเป็นเจ้าพนักงาน แต่พอถึงเวลาจะใช้สิทธิ์เจ้าพนักงานไปเลือกตั้ง กลับบอกว่าไม่ได้ กระผม/อาตมภาพถึงได้สรุปว่า พระภิกษุสามเณรของเราเป็นอะไรที่เขาต้องการให้เป็น ถ้าส่วนไหนเขาไม่ต้องการให้เป็น เขาก็จะอ้างและจำกัดสิทธิ์เอาไว้
ก็ได้แต่หวังว่าญาติโยมทั้งหลายที่มีสิทธิ์ในการเลือกตั้ง พยายามพิจารณาหาพรรคการเมืองที่เลวน้อยที่สุด แล้วก็เลือกเข้าไป บรรดาบุคคลที่ดีแต่ตีโวหารว่า "สถาบันกษัตริย์มีไว้ทำอะไร ?" "ทหารมีไว้ทำอะไร ?" อย่าไปเสียเวลาเลือกพวกนี้เข้ามาถาม ไอ้ทุกวันนี้ที่ถามว่า "ทำไมเอาทหารเกณฑ์ไปรบ ?" ก็เพราะว่าเขาเกณฑ์มาเพื่อเป็นกำลังพลในการป้องกันประเทศ ก็ดันเสือกแกล้งโง่..!
อยากจะถามว่า "ถ้าคุณเป็นเจ้าของบริษัท ถึงเวลามีงานกรรมกร คุณจะลงไปทำไหม ?" ถ้าถามแบบนี้ก็น่าจะลงไปทำ ดังนั้น..บรรดาบุคคลโง่ ๆ เหล่านี้ อย่าไปเอาเป็นตัวแทนของเราเข้าไป เพราะว่าจะไปทำเรื่องโง่ ๆ ในสภาต่อไป พยายามอดทนอดกลั้นต่อสภาพการเมืองที่เหลวไหลไร้สาระของเรา ได้แต่หวังว่าสักวันหนึ่งเขาทั้งหลายเหล่านั้นจะเห็นแก่ส่วนรวมมากกว่าส่วนตัวเสียที..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 13-12-2025 เมื่อ 02:06
|