แต่อาตมภาพพอถึงเวลา ๒.๕๕ น. จะลุกมานั่งกรรมฐาน เหนื่อยขนาดนั้นพวกเราลุกไหวไหม ? แต่อาตมภาพลุก เพราะรู้ว่าตัวเองทำอะไร ทำแล้วได้อะไร โดยเฉพาะกำลังใจจดจ่อมุ่งมั่นอยู่ ถึงเวลาภาวนาให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ แม้จะฝึกหนักมาทั้งวันทั้งคืนก็ตาม
ยิ่งถ้าวิ่งนี่แล้วเจอหมู่โสภณ แกชอบวิ่งมากเลย แกเป็นคนอ้วน น้ำหนัก ๙๐ กว่ากิโลกรัม แต่เจ้าประคุณวิ่งตัวปลิวเลย ถ้าพาเราวิ่งนี่ไม่เคยต่ำกว่าสองชั่วโมง..! ทำไมไม่เป็นลมตายสักทีวะ ? อ้วนขนาดนั้น..!
อาตมภาพเหนื่อยขนาดนั้น แต่ว่าลุกขึ้นมากรรมฐานเพราะว่ารู้ว่าทำแล้วได้อะไร ที่อัศจรรย์กว่านั้นก็คือเพื่อน เหนื่อยฉิบหายเลย แทนที่เพื่อนจะนอน..เปล่าหรอก พอเราลุกมานั่งปุ๊บ เพื่อนก็ลุก คลานมาแบบเงียบกริบเลยนะ ครูฝึกจะได้ยินไม่ได้ ไม่อย่างนั้นโดนซ๋อม คำว่าซ่อมก็คือลงโทษ ในเมื่อบกพร่องก็ต้องซ่อมให้ดี..ใช่ไหม ?
เพื่อนคลานมาพนมมือรอบเตียง "หลวงพ่อขอสองตัว" อาตมาเป็นหลวงพ่อตั้งแต่ยุคนั้นแล้ว..! กูเหนื่อยจะตายห่า กูรู้ว่านั่งกรรมฐานแล้วดีอย่างไร กูถึงลุก พวกมึงเหนื่อยจะตายห่าแต่ลุกมากวนตีนกู ฉันทะมึงสุดยอดมาก..!
เห็นหรือยังว่ามารเก่งแค่ไหน ? เพราะฉะนั้น..ทำอะไรอย่าไปแคร์คำคน โดยเฉพาะถ้าเรารู้ว่าเราทำแล้วจะดีกับเรา จะดีกับอนาคตของเรา จะดีตามหลักศีลธรรมขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า..ทำไปเถิด
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
ปกิณกธรรมช่วงบวชเนกขัมมะปฏิบัติธรรม วันพ่อแห่งชาติ
วันศุกร์ที่ ๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ - วันอาทิตย์ที่ ๗ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ณ วัดท่าขนุน
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย ทะเล และ นาทาม)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 10-12-2025 เมื่อ 21:04
|