ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า เมื่อวานนี้, 01:20
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,535
ได้ให้อนุโมทนา: 160,767
ได้รับอนุโมทนา 4,520,751 ครั้ง ใน 37,150 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายที่ไม่ว่าจะเป็นหน่วยงานใด หรือวัดวาอารามใดก็ตาม ที่จำเป็นต้องกำหนดให้มีระเบียบวินัยต่าง ๆ ไม่ว่าการสวดมนต์ ทำวัตร บิณฑบาต กรรมฐาน ก็คือการที่กำหนดแนวทางปฏิบัติธรรมให้แก่พวกเรานั่นเอง เพราะว่าการปฏิบัติตามก็คือการปฏิบัติในศีล คือรักษาระเบียบ รักษาวินัย การระมัดระวัง รักษาระเบียบ รักษาวินัย สมาธิย่อมเกิดขึ้น ถึงเวลาเราจะภาวนา อารมณ์ใจก็ทรงตัวได้ง่าย

โดยเฉพาะการสวดมนต์ไหว้พระ ซึ่งองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า

บุคคลจะบรรลุมรรคผลได้ก็เพราะ

๑) ฟังธรรม

๒) สวดสาธยายธรรม

๓) พิจารณาธรรม

คำว่าสวดสาธยายธรรม ก็คือสวดมนต์นั่นเอง เนื่องเพราะว่าถ้าเราทำเป็นในเบื้องต้น จะเกิดสมาธิขึ้นมาได้ ถ้าสมาธิไม่ทรงตัว เราจะสวดผิด

ประการที่สอง ถ้ามีความสามารถมากขึ้น ให้ใช้คำสวดมนต์แทนคำภาวนา เราจะสามารถทรงฌานได้ในขณะสวดมนต์ ใครที่บอกว่าทรงฌานแล้วนั่งเป็นตอไม้ ทำให้เกิดโกสัชชะ คือความขี้เกียจ นั่นช่างหัวมัน..! เพราะว่าเราสวดแล้วสามารถทรงสมาธิระดับสูงได้

ลำดับต่อไปก็คือถ้าหากว่าท่านทั้งหลายฝึกมาสายมโนมยิทธิ ให้ยกจิตขึ้นไปสวดมนต์ถวายพระพุทธเจ้าบนพระนิพพาน ใจของเราไปอยู่ตรงนั้นบ่อย ๆ สภาพจิตจะมีการกำหนดจดจำ ถ้าหากว่าหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ ก็ตาม เราจะไปอยู่ตรงนั้นเลย
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:28
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 22 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา