เราท่านทั้งหลายจึงต้องตระหนักว่ากำลังจะก้าวเข้าสู่ความเป็นอุปสัมบัน ก็คือนักบวชที่ชาวบ้านเขาเคารพนับถือ สิ่งหนึ่งประการใดที่ทำแล้วจะสร้างความเลื่อมใสแก่ญาติโยม เราต้องทำในสิ่งนั้น ซึ่งสิ่งทั้งหลายเหล่านั้นก็คือพระวินัย หรือว่าศีล ๒๒๗ ข้อนั่นเอง ไม่ใช่การบอกใบ้ให้หวยใด ๆ ทั้งสิ้น..!
จึงเป็นเรื่องที่เราต้องตระหนัก ก็คือมี "สมณสัญญา" ว่า บัดนี้เรามีเพศต่างจากคฤหัสถ์แล้ว อาการกิริยาใด ๆ ที่เป็นของสมณะ เราจักต้องทำอาการกิริยานั้น ๆ
ต้องตระหนักใน "สมณสารูป" ก็คือ ตัวเราติเตียนตัวเราเองโดยศีลได้หรือไม่ ? ผู้รู้พิจารณาแล้ว ติเตียนตัวเราโดยศีลได้หรือไม่ ?
จะต้องตระหนักถึง "สมณธรรม" ก็คือ วันคืนล่วงไป ล่วงไป เราทั้งหลายทำอะไรกันอยู่ ?
ถ้าท่านทั้งหลายบวชเข้ามาแล้ว รักษาสมณสัญญา สมณสารูป และสมณธรรมเอาไว้ได้ ต่อให้ไม่ได้มรรคผล ท่านก็จะเป็นภิกษุสงฆ์ที่ดีในพระพุทธศาสนา สามารถช่วยค้ำจุนพระพุทธศาสนาของเราให้เจริญรุ่งเรืองไปจนกว่าจะครบ ๕,๐๐๐ ปี
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒ ธันวาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:13
|