ทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ต่าง ๆ ที่บางคนหวัง ก็เป็นสิ่งที่แปรปรวนได้ง่าย
อย่างที่หลายท่านก็เห็นแล้วว่า แม้แต่การแต่งตั้งกรรมการมหาเถรสมาคมที่ผ่านมา พระเถระผู้ใหญ่ระดับนั้น ยังต้องหลุดพ้นจากตำแหน่งไปหลายต่อหลายรูป เราไม่ไปพูดถึงว่าท่านหลุดจากตำแหน่งเพราะอะไร แต่อยากจะให้เห็นชัดว่า สิ่งทั้งหลายเหล่านี้ไม่มีอะไรเที่ยงแท้แน่นอน
ในเมื่อพระผู้ใหญ่ระดับนั้นยังตกอยู่ภายใต้โลกธรรม มีลาภ เสื่อมลาภ มียศ เสื่อมยศ ได้รับคำสรรเสริญ โดนนินทา มีความสุข ได้รับความทุกข์ ซึ่งภาษาบาลีท่านใช้คำว่าโลกธรรม ก็คือ สิ่งที่เป็นธรรมดาในโลกนี้ แล้วท่านก็อาจจะเห็นว่าสิ่งที่ตนเองตั้งเป้าเอาไว้นั้น ความจริงแล้วผิดพลาด ลาภ ยศ สรรเสริญ สุข ไม่ใช่สิ่งที่เที่ยงแท้แน่นอน สิ่งที่เที่ยงแท้อย่างยิ่ง ก็คือหลักธรรมเพื่อความพ้นทุกข์ ได้แก่ มรรคมีองค์ ๘ ซึ่งย่อแล้วก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา นั่นเอง
ในเมื่อวันเวลาล่วงเลยไปเร็วขนาดนี้ เราต้องนึกว่าวัฏสงสารที่ยาวไกลจนหาต้นหาปลายไม่เจอนั้น ถ้าเราไม่เร่งรัดรีบเดิน เราก็จะตกอยู่ในกองทุกข์ที่แผดเผาเร่าร้อนเช่นนี้ไปชาติแล้วชาติเล่า นับชาติไม่ถ้วน แต่ถ้าหากว่าท่านเพียรพยายามเดินไม่หยุด ต่อให้ไปไม่ถึงสุดทาง แต่หนทางข้างหน้าก็จะเหลือน้อยลง เหลือสั้นลง แล้วหนทางนี้ยิ่งเดินก็ยิ่งง่ายขึ้น ลำบากแต่ช่วงแรกที่เราต้องเพียรพยายามต่อสู้กับกิเลสเท่านั้น
เมื่อกำลังใจของเราเข้มแข็งเพียงพอ สติ สมาธิ ปัญญา สั่งสมได้เพียงพอ ด้วยอำนาจของศีล ของสมาธิ ของปัญญา กิเลสก็จะชักจูงเราได้น้อย สมาธิของเราที่แก้กล้า ทำให้สติมีความแหลมคม ว่องไว มองเห็นตลอดไปถึงว่า ถ้าคิดอย่างนี้ ถ้าพูดอย่างนี้ ถ้าทำอย่างนี้ จะเกิดผลดีอย่างไร จะเกิดผลเสียอย่างไร แล้วด้วยปัญญาที่สร้างสมเอาไว้ ตลอดจนกระทั่งกำลังสมาธิที่หนุนเสริม ก็จะทำให้เราเลือกในสิ่งที่ถูกต้อง ก็คือเว้นในสิ่งที่ทำให้เราผิดพลาด ไหลตามกระแสกิเลส มากระทำในสิ่งที่คนอื่นอาจจะเห็นว่ายาก แต่ไม่เกินความสามารถที่เราท่านทั้งหลายจะทำได้และไปถึง
จึงเป็นเรื่องที่ทุกคนไม่ควรประมาท เพราะว่าชีวิตเป็นของไม่เที่ยง เราไม่รู้ว่านอนลงไปแล้วจะได้เห็นพระอาทิตย์ขึ้นในวันพรุ่งนี้หรือเปล่า เพื่อนฝูงของกระผม/อาตมภาพหลายคน นอนลงแล้วก็ไม่ได้ลุกขึ้นมาอีกเลย ในเมื่อเป็นเช่นนั้น ถ้าเรายังประมาทอยู่ สภาพจิตเกาะความดีไม่มั่นคง ถึงเวลาก็มีโอกาสที่จะลงอบายภูมิสูงมาก แต่ถึงสมาธิจิตของเรามั่นคง ก็ยังประกันไม่ได้ว่า ในส่วนของชาติภพต่อไปของเราจะเป็นอย่างไร เนื่องเพราะว่ายังมีอาสันนกรรม คือกรรมก่อนตายที่จะคอยมาชักจูงเราอีก
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-12-2025 เมื่อ 02:43
|