ก็แปลว่ามนุษย์เราถ้าไม่มีศีลไม่มีธรรม ก็เหมือนกับสัตว์ดี ๆ นี่เอง กิน ถ่าย นอน สืบพันธุ์ แล้วก็แย่งชิงทรัพยกรกัน รบราฆ่าฟันจนตายกันไปนับไม่ถ้วนตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน ที่มีผู้รู้เขาสรุปเอาไว้ว่า "แย่งอาหารกิน แย่งถิ่นที่อยู่ แย่งคู่สวาท แย่งอำนาจปกครอง"
ในเรื่องของการแย่งอาหาร หรือสถานที่อุดมสมบูรณ์ พอที่จะหล่อเลี้ยงคณะของตนได้ เราต้องดูบรรดาผู้ที่อาศัยอยู่ในทุ่งหญ้าทางประเทศจีนหรือมองโกเลีย ที่ต้องอพยพหาแหล่งที่อุดมสมบูรณ์อยู่ทุกปี คราวนี้ถ้าจะสร้างจะเสริมเองก็เป็นเรื่องที่ยาก ต้องอาศัยเวลานาน ก็เลยไปฉกชิงจากเผ่าอื่นที่อ่อนแอกว่า..!
แย่งถิ่นที่อยู่ก็อยู่ในลักษณะเดียวกัน ตัวอย่างที่ชัด ๆ ก็คือพวกอเมริกันแย่งที่อยู่ของอินเดียนแดง จนกระทั่งปัจจุบันนี้เจ้าของที่แทบจะไม่เหลือเผ่าพันธุ์เอาไว้แล้ว ส่วนคนไปแย่งที่อยู่เขา ทุกวันนี้ก็อ้างสิทธิมนุษยชนทุกอย่าง แต่ก็ก่อสงครามไปทุกที่เหมือนกัน..!
แย่งคู่สวาท บางทีก็เข่นฆ่ากันล้มตายเป็นร้อยเป็นพัน หรือแม้กระทั่งในครอบครัว พ่อลูกก็ฆ่ากันเอง ตัวอย่างโบราณ ๆ หน่อยก็ "เฮเลนแห่งทรอย" ศึกกรุงทรอยที่รบกันแทบเป็นแทบตาย เกิดจากผู้หญิงคนเดียว จนกระทั่งมี "ม้าโทรจัน" ซึ่งทำให้สามารถตีกรุงทรอยแตกได้ หรือไม่ก็มายุคสมัยต่อมาอย่าง "หยางกุ้ยเฟย" เป็นภรรยาของพ่อแล้วต้องไปเป็นภรรยาของลูก แทบจะรบราฆ่าฟันกันเองในครอบครัวก็เพื่อผู้หญิงคนเดียว..!
ข้อสุดท้าย แย่งอำนาจปกครอง ดูบ้านเราก็รู้เรื่อง โดยเฉพาะนักการเมือง เขาถือว่าไม่มีมิตรแท้และศัตรูถาวร เนื่องเพราะว่าเพื่อให้ได้อำนาจมา สามารถที่จะผสมพันธุ์กับทุกพรรคได้ ไม่ต้องไปสนใจว่าแนวทางหรือนโยบายพรรคจะไปกันได้หรือไม่ ? สนใจอยู่อย่างเดียวว่าจะได้ประโยชน์เท่าไร ? หรือว่า จะรักษาอำนาจไว้ได้หรือไม่ ?
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-11-2025 เมื่อ 01:50
|