ข้อที่ ๑ ตอบว่า "ไม่รู้" ข้อที่ ๒ "นี่ก็ไม่รู้" ข้อที่ ๓ "นี่ก็ไม่รู้อีก" เราอาจจะเห็นเป็นเรื่องสนุกสนาน แต่ถ้าหากว่าถ่ายส่งไปเมื่อไร ก็จะกลายเป็นเราทำผิดระเบียบห้องสอบ ทำอะไรจึงเป็นเรื่องที่ต้องระวังอย่างยิ่ง เพราะว่าเดี๋ยวนี้การยกเลิกข้อความในไลน์ เขาให้เวลาแค่ชั่วโมงเดียวแค่นั้น พลาดเกินชั่วโมงเมื่อไรก็ลบไม่ได้แล้ว หรือถ้าจะลบก็ต้องเสียสตางค์ให้เขา กลายเป็นว่าปัจจุบันนี้ ถ้ามีอะไรทุจริตผิดพลาดเล็ดลอดลงสื่อโซเชียลเมื่อไร โอกาสที่จะรู้ทั่วประเทศ หรือทั่วโลกจะมีทันที..!
อีกส่วนหนึ่งที่เหมือนดูกับทุจริตเลยก็คือ การช่วยเขียนคำยากให้เด็ก ๆ เราสามารถสะกดให้ได้ แต่ถ้ามีใครถ่ายไป ต้องอธิบายให้เขาทราบได้ด้วยว่าคุณเขียนเพื่ออะไร ต้องระมัดระวังเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่าบางทีกรรมการจากส่วนกลางก็จะมาตรวจสนามสอบ แต่ด้วยความที่ว่าแค่อำเภอทองผาภูมิก็ ๒๐ กว่าสนามไปแล้ว กรรมการจึงมักจะไปไม่ทั่วถึง แล้วก็ยังดีตรงที่ว่า ถ้าจะมาเขาจะติดต่อแจ้งมาก่อน
อีกส่วนหนึ่งก็คือการเซ็นชื่อในสมุดเยี่ยม ของกระผม/อาตมภาพตำแหน่งก็คือ "ประธาน" ของพวกท่านก็คือ "กรรมการ" กระผม/อาตมภาพเจอมาแล้ว ที่เขียนว่าตำแหน่ง "พระลูกวัด" ถูกต้องตรงเป๊ะเลย แต่ควรจะโดนถีบมากกว่า..! เพราะว่าวันนั้นคุณคือกรรมการกำกับห้องสอบ เป็นเรื่องที่จะต้องระมัดระวังให้มาก อะไรไม่แน่ใจ ให้ถามรุ่นพี่ที่เขาผ่านงานมาก่อน
พรุ่งนี้จะต้องมีพิธีเปิดตอน ๘ โมงเช้า แล้วเด็กสอบตอน ๘ โมงครึ่ง เราจึงต้องงดบิณฑบาต ๑ วัน เพื่อที่จะได้ไปเตรียมการให้เรียบร้อย กระผม/อาตมภาพเองก็ต้องให้โอวาท ต้องอ่านสาส์นจากแม่กองธรรมสนามหลวง แล้วถึงปล่อยเด็กให้เข้าห้อง เวลาแค่ ๓๐ นาทีนี่แทบจะทำอะไรไม่ทัน เราก็จะได้รู้กันในวันนั้นเองว่าใครมีความคล่องตัวในการทำงานเท่าไร ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่ทิ้งปัญหาให้กระผม/อาตมภาพแก้ไขอะไรมากมายอะไรนัก..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:34
|