ในเรื่องบางอย่างที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสไว้ว่าเป็นอจินไตย ก็คือเรื่องที่ไม่ควรคิด ได้แก่
เรื่องที่ ๑ พุทธวิสัย ความสามารถขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ที่สร้างบารมีมาอย่างน้อยก็ ๒๐ อสงไขย กับอีกหลายแสนมหากัป เนื่องเพราะว่าพระพุทธเจ้าที่ตรัสรู้เร็วที่สุด ก็คือพระพุทธเจ้าแบบปัญญาธิกะ เป็นผู้ชำนาญ ถนัดในด้านการใช้ปัญญา จึงบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณได้เร็วที่สุด
แต่กระนั้นก็ตาม บาลีก็ระบุเอาไว้ชัดเจนว่า จิตติตัง สัตตะสังเขยยัง ก็คือคิดว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้า ก็ปาไป ๗ อสงไขยกัปแล้ว นวะสังเขยยะ วาจะกัง ออกปากว่าเราจะเป็นพระพุทธเจ้า อีก ๙ อสงไขยกัป แล้วท้ายที่สุดก็คือปฏิบัติกาย วาจา ใจ เพื่อความเป็นพระพุทธเจ้าอย่างจริงจัง ทุ่มเท ชนิดที่แลกด้วยชีวิต ก็คือผ่าอก ควักหัวใจ ควักดวงตา ตัดแขน ตัดขา เชือดเนื้อตัวเอง ตัดศีรษะตัวเอง ไม่ว่าจะเป็นทานบารมีก็ดี เป็นพุทธบูชาก็ตาม อีก ๔ อสงไขยกับแสนมหากัป ก็แปลว่าหลักสูตรที่สั้นที่สุด พระพุทธเจ้าต้องบำเพ็ญบารมีอย่างน้อย ๒๐ อสงไขย กับอีก ๑ แสนมหากัป..!
ขอยืนยันคำว่า "มหากัป" ไม่ใช่ "อันตรกัป" อันตรกัปคือรอบของกัปทั่วไป อรรถกถาจารย์ท่านอธิบายไว้ว่า ตั้งเลข ๑ ขึ้นมา แล้วต่อด้วยเลข ๐ จำนวน ๑๔๐ ตัว เป็นตัวเลขที่ต้องใช้ยกกำลังเท่านั้น ผ่านไป ๑๐๐ ปีลดลง ๑ ปี ผ่านไป ๑๐๐ ปีลดลง ๑ ปี จนกระทั่งเหลือแค่หลักสิบ แล้วผ่านไป ๑๐๐ ปี เพิ่มไป ๑ ปี ผ่านไป ๑๐๐ เพิ่มไป ๑ ปี จนขึ้นไปเป็น ๑๔๑ หลักตามเดิม จึงจะได้ ๑ รอบอันตรกัป..!
ที่บาลีท่านเปรียบเอาไว้ว่า มีภูเขาที่เป็นศิลาแท่งทึบ ประกอบด้วยเนื้อหินล้วน กว้าง ๑ โยชน์ ยาว ๑ โยชน์ สูง ๑ โยชน์ ก็คือด้านละ ๑๖ กิโลเมตร เพราะว่า ๒๐ วาเป็น ๑ เส้น ๔๐๐ เส้นเป็น ๑ โยชน์ ก็แปลว่า ๑ โยชน์เท่ากับ ๘,๐๐๐ วา ก็คือ ๑๖,๐๐๐ เมตร ในเมื่อหักกลบลบล้างว่า ๑,๐๐๐ เมตรเท่ากับ ๑ กิโลเมตร ก็จะได้ด้านละ ๑๖ กิโลเมตร
ระยะเวลา ๑๐๐ ปี เทวดาเอาผ้าเนื้ออ่อนเหมือนสำลีมาลูบภูเขานั้นครั้งหนึ่ง ๑๐๐ ปีมาลูบภูเขานั้นครั้งหนึ่ง จนภูเขานั้นสึกเสมอพื้น ท่านว่ายังไม่ได้ ๑ รอบอันตรกัปดี..! แล้ว ๖๔ รอบอันตรกัปจะเท่ากับ ๑ อสงไขยกัป ๔ อสงไขยกัป เท่ากับ ๑ มหากัป ก็แปลว่า ๑ มหากัป ท่านทั้งหลายจะต้องรอจนกว่าจะลูบภูเขาสึกเสมอพื้นไป ๒๕๖ ลูกเป็นอย่างน้อย..!
แล้วผู้ที่สร้างบุญสร้างบารมีมาขนาดนั้น ความสามารถของพระองค์ท่านไม่ใช่สิ่งที่เราจะจินตนาการถึง อย่างที่พระพุทธเจ้าตรัสเอาไว้ในสีสปาสูตรว่า สิ่งที่พระองค์ท่านรู้เหมือนกับใบไม้ทั้งป่า แต่ที่เอามาตรัสสอนเพื่อประโยชน์สุขในปัจจุบัน เพื่อประโยชน์สุขในอนาคต และเพื่อประโยชน์สูงสุดนั้น เป็นแค่ใบไม้กำมือเดียว ใบไม้กำมือเดียวของพระองค์ท่านคือ ๘๔,๐๐๐ พระธรรมขันธ์..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-11-2025 เมื่อ 00:04
|