จึงเป็นเรื่องของบุคคลที่ใช้มโนมยิทธิก็ดี หรือว่าได้รับนิมิตต่าง ๆ ก็ตาม จะต้องระมัดระวังเรื่องนี้อย่างถึงที่สุด เหมือนกับเดินบนแผ่นน้ำแข็งบาง ๆ ต้องระวังไม่ให้น้ำแข็งแตก แล้วเราตกลงไปตายอยู่ภายใต้ความเย็นเยือกข้างล่าง..! เพราะว่าการทดสอบทั้งหลายเหล่านี้จะมีมาทุกเวลา ทุกนาที ทุกวินาที ยิ่งท่านทั้งหลายมีทีท่าว่าจะเดินทางถูก เข้าสู่เส้นของมรรค ๘ เมื่อไร ก็จะโดนหลอกให้เดินวนออกนอกทางทุกครั้งไป จนกว่าท่านทั้งหลายจะได้สติ รู้ตัวขึ้นมาว่า "กูเสียเวลามามากเกินไปแล้ว..!"
ดังที่กระผม/อาตมภาพเองโดนหลอกให้ไปขุดสมบัติที่นั่น ขุดทองคำที่นี่ ครั้งที่ ๑ ไปถึงแล้วไม่สามารถที่จะขุดได้ เพราะเขาบอกว่าต้องไปบวงสรวงหน้าสถานที่ เราทำบวงสรวงตั้งแต่ที่วัดนั้นไม่ถูกต้อง..!
ครั้งที่ ๒ ก็มีลูกศิษย์ที่บ้าพอ ช่วยหอบเครื่องบวงสรวงเข้าไปให้ในป่า แต่ปรากฏว่าพอทำบวงสรวงแล้วก็ยังขุดอะไรไม่ได้ เขาบอกว่าเวลาไม่ถูกต้อง..!
ครั้งที่ ๓ พอมา กระผม/อาตมภาพบอกว่า "มึงพอเลย ถ้าจะให้จริง ๆ มึงจัดแจงเอาสมบัตินั้นไปขาย แล้วโอนเงินเข้าบัญชีมา ตั้งแต่นี้เป็นต้นไป กูจะไม่ไปขุดอะไรให้มึงได้สร้างกุศลอีกแล้ว..!"
ในเมื่ออยู่ในลักษณะนี้ เขาก็เลิกหลอกเราไปโดยปริยาย เพราะรู้ว่าเราเข็ดและไม่ทำตามแล้วอย่างแน่นอน ไม่เช่นนั้นก็ต้องเสียเวลาไปหาโน่น ไปหานี่ ทุกอย่างล้วนแล้วแต่วิเศษเลิศลอยทั้งสิ้น แต่ว่าสิ่งที่เขาไม่ได้สอนให้เราหาเลยก็คือ การปฏิบัติเพื่อมรรคผลของตนเอง..!
ดังนั้น..จึงขอพูดเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่งว่า อันดับแรกเลย มโนมยิทธินั้นเราเห็นจริง แต่เรื่องที่เราเห็นนั้นไม่แน่ว่าจะจริง อย่าได้ปักใจเชื่อเป็นอันขาด เพราะว่าสิ่งนี้เป็นมีดสองคมที่อันตรายสุด ๆ ถ้าหากว่าเราใช้ผิดเมื่อไร โอกาสจะเข้าถึงมรรคผลจะหายไปทันที เพราะว่าจะโดนหลอกให้วนเป็นปูขาเก ไม่ได้ไปไหนอยู่ตรงนั้นเอง..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๒๒ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 23-11-2025 เมื่อ 01:35
|