อีกส่วนหนึ่งทำให้นึกถึงพระราชนิพนธ์ในพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ ๖ ไม่ทราบว่าพวกท่านเคยอ่านกันหรือไม่ ? ที่ทรงพระราชนิพนธ์ไว้ว่า "เมืองใดไม่มีทหารหาญ เมืองนั้นไม่นานเป็นข้า" ก็คือต้องเป็นทาสคนอื่นเขา
ปัจจุบันนี้เราเห็นอย่างชัดเจนแล้วว่า "ทหารมีไว้ทำอะไร ?" ส่วนไอ้พวกที่กล่าวว่า "ทหารมีไว้ทำอะไร ?" ก็พลิกลิ้นกันอุตลุด ลองคิดดูว่าประเทศไทยเราใหญ่กว่าประเทศเขมร ขนาดมีทหารอยู่ อีกฝ่ายซึ่งมีมหาอำนาจหนุนหลังยังไม่ให้ความเกรงใจ สนธิสัญญาทุกฉบับไม่มีประโยชน์ เซ็นก็เซ็นไป แต่กูจะทำอย่างนี้..!
"เมืองใดไร้จอมพารา เมืองนั้นไม่ช้าอับจน" ก็คือถ้าไม่มีสุดยอดผู้นำอย่างพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว หรือว่านายกรัฐมนตรี หรือประธานาธิบดีที่มีความรู้ความสามารถอย่างแท้จริง ไม่ช้าก็จะพาประเทศเดือดร้อนอย่างประเทศยูเครน..!
"เมืองใดไม่มีพาณิชย์เลิศ เมืองนั้นย่อมเกิดขัดสน" ต้องบอกว่าประเทศไทยเราสร้างบุญเอาไว้ดีมาก คุณศุภจี สุธรรมพันธุ์มาได้ตรงเวลา ภาษาเก่าเขาบอกว่า "ทันฟืนทันไฟ" มาก ขณะที่ประเทศสหรัฐอเมริกาบีบคั้นทุกประเทศ โดยเฉพาะไทยเราทุกวิถีทาง โดยการขึ้นภาษีการค้า เพื่อหวังให้มีการต่อรองเจรจา แล้วตนเองจะได้ขอมาตั้งฐานทัพในประเทศไทย คุณศุภจีไม่สนใจ "มึงจะไม่ซื้อกูก็ไม่ว่า" ขายข้าวให้สิงคโปร์ ๑ แสนตัน ขายข้าวให้จีน ๕ แสนตัน เจรจาการค้ากับรัสเซีย เจรจาการค้ากับสวีเดน ทำเอาสหรัฐไปไม่เป็น เพราะว่าปกติมีแต่คนกลัว แล้วก็ยอมตั้งโต๊ะเจรจา คุณศุภจีไม่ได้กลัว ไม่ด่า ไม่โต้ตอบ "มึงปิดทางนี้ กูขายทางโน้น" ลองนึกดูว่าถ้าลำพังรัฐมนตรีของเราทั้งหมด ก็คงต้องไปกราบก้นโด่ง ยอมเจรจากับเขาแต่โดยดี..!
"เมืองใดไร้ศิลป์โสภณ เมืองนั้นไม่พ้นเสื่อมทราม" ดูเขมรก็รู้ ก็อปปี้ไทยทุกอย่าง แล้วดูสมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี ทรงฉลองพระองค์แต่ละชุด คนเขาฮือฮากันไปทั้งโลกว่า เป็นวัฒนธรรมที่ผสานไทยกับจีนอย่างลงตัวและสง่างามสุด ๆ..!
"เมืองใดไม่มีกวีแก้ว เมืองนั้นไม่แคล้วคนหยาม" ก็คือถ้าหากว่าไม่มีนักเขียนที่มีความสามารถ ก็จะไม่มีรากฐานเรื่องราวต่าง ๆ ที่ได้รับการจดจารจารึกไว้เป็นอย่างดี ไม่ว่าเป็นร้อยแก้วหรือร้อยกรอง อย่างที่ทางการจีนเขายกบรรดาสุภาษิตต่าง ๆ มาเจรจาความเมืองกัน แม้กระทั่งความว่า "หวงโฮ่ว" หรือที่คนไทยเรียกว่า "ฮองเฮา" คำเดียว ก็เท่ากับให้เกียรติและยกย่องสมเด็จฯ พระบรมราชินีอย่างถึงที่สุด..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 00:59
|