ปรากฏว่าหลังจากที่ปล่อยให้คณะสงฆ์เขาสอบสวนและด่าจนพอใจแล้ว ก็กลับมานอนที่วัดท่าขนุน นึกขึ้นมาได้ว่าลืมมีดหมอไว้ที่วัดทองผาภูมิ ขยับตัวยังไม่ทันจะหัวพ้นหมอน ก็ทิ้งตัวลงนอนต่อ เพราะความรู้สึกบอกว่า "ถ้าของแค่นี้เอ็งยังตัดใจไม่ได้ เรื่องอื่นก็ตัดไม่ได้เหมือนกัน" ดังนั้น..แม้ว่าจะเป็นวัตถุมงคลของรักของหวงขนาดไหนก็ตาม กระผม/อาตมภาพใช้แค่ตอนนี้เท่านั้น หลังจากนี้จะไปอยู่กับใคร ก็แล้วแต่บุญแต่กรรมของเขา..!
พวกเราถ้าทำมาถึงตรงจุดนี้ ก็จะอยู่ในลักษณะที่ว่า "อยู่กับโลก แต่ไม่ติดในโลก" เพียงแต่ต้องระมัดระวังกำลังใจของตนเองให้ดี ของอะไรที่เราชอบจะตัดยากมาก เพราะว่าเราจะไปไขว่คว้าเข้ามา ของที่เราไม่ชอบจะตัดง่ายกว่า เพราะว่าเราไม่ต้องการอยู่แล้ว..!
ส่วนอีกเรื่องหนึ่งที่อยากจะพูดถึงก็คือ เมื่อเปิดกระทู้ให้ผู้สมัครบวชวาระปัญญาสมวาร ของสมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง เห็นชื่อเห็นนามสกุลผู้สมัครแล้ว กระผม/อาตมภาพอยากจะบ้า..! พูดง่าย ๆ ก็คือว่าด้วยความรู้ความสามารถที่ศึกษา ยังมาแทบจะแปลชื่อของเขาไม่ออก..!
กระผม/อาตมภาพบอกแล้วว่า "แต่ละคนถ้าหากว่ามีเรื่องไม่ดีเกิดขึ้นในชีวิต ให้เร่งปฏิบัติในทาน ศีล ภาวนาให้มากเข้าไว้ เพื่อเอาบุญใหญ่ตรงนี้ ไปคานกับอกุศลกรรมที่กำลังแทรกเข้ามาสนอง จะเป็นการแก้ไขหรือว่าพลิกชีวิต เปลี่ยนดวงที่ดีที่สุด เพราะว่าเป็นสิ่งที่ยั่งยืน คงทน และส่งผลดีให้กับเราอย่างแท้จริง" แต่ส่วนใหญ่แล้วมักขี้เกียจ มักง่าย ให้ไปนั่งภาวนากูไม่เอา..ลำบาก เปลี่ยนชื่อง่ายกว่า บางคนเปลี่ยน ๗ รอบ ๘ รอบ ก็ไม่เห็นแม่...จะดีขึ้น แต่ก็ยังไม่ได้สำนึกอีก..!
ดังนั้น..เรื่องพวกนี้สำคัญที่สุดก็คือเปลี่ยนความประพฤติของเราเอง ไม่ใช่ไปเปลี่ยนชื่อเปลี่ยนนามสกุล สมัยนี้เปลี่ยนมาก ๆ ดีไม่ดีก็ตำรวจมาถึงอีกด้วย ไปทำผิดอะไรมาหรือเปล่า ? ถึงได้เปลี่ยนนักเปลี่ยนหนา ก็เลยกลายเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพเห็นแล้วก็นั่งเซ็งในอารมณ์ว่า "สมัยนี้คนมักง่ายมีเยอะเหลือเกิน" กระผม/อาตมภาพชื่อ "เล็ก" มาจนทุกวันนี้ ไม่เห็นจะเล็กอย่างที่ว่า เพราะว่าถ้าใจของเราดี อะไร ๆ ก็ดีทั้งหมด ถ้าหากว่ากำลังใจไม่ดี เปลี่ยนชื่อให้เลิศลอยฟ้า อ่านไม่ออก ยาวสัก ๒๐ ตัวอักษร ก็ไร้ประโยชน์..!
พระพุทธเจ้าก็ตรัสเอาไว้ชัดเจนแล้วว่า มโนปุพพังคมา ธัมมา มโนเสฏฐา มโนมยา ธรรมทั้งหลายมีใจเป็นหัวหน้า มีใจประเสริฐสุด สำเร็จได้ด้วยใจ ไม่ใช่สำเร็จด้วยการเปลี่ยนชื่อ..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๖ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:31
|