ตั้งแต่สมัยที่ในหลวงรัชกาลที่ ๙ ยังทรงพระชนมชีพอยู่ กระผม/อาตมภาพก็บอกกับทุกคนแล้วว่า ถ้าหากว่ากระผม/อาตมภาพเป็นนายกรัฐมนตรี ขี้เกียจแถลงนโยบาย ถึงเวลาก็ขอโอกาสเข้าเฝ้าพระองค์ท่านอย่างน้อยเดือนละ ๒ ครั้ง แค่ขอพระราชทานแนวทางเท่านั้นเองว่า จะให้ประเทศไทยไปทางไหน ?
แล้วเราก็ระดมสรรพกำลังและงบประมาณทั้งหมดที่มี สนองพระราชดำริ สนองพระราชดำรัสพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทุกอย่างก็จบแล้ว ไม่ใช่เจอแต่นายกฯ โง่ ๆ รัฐมนตรีโง่ ๆ สร้างรั้วกั้นเขมรก็ไม่ได้ เพราะว่าเป็นการไปละเมิดสิทธิมนุษยชน ได้ยินแล้วกูจะบ้า..! จ้องแต่จะเปิดด่านอย่างเดียว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของตนเอง ทั่วโลกเขารู้ว่าเจ้าพ่อสแกมเมอร์ตัวจริงอยู่ในแวดวงนักการเมืองไทย แต่ประเทศไทยแกล้งโง่ "ตั้งโจรไปให้สอบสวนโจร เพื่อที่จะฟอกขาวให้โจร" ฟังแล้วเครียด...!
แต่ทุกท่านก็จะเห็นแล้วว่าบ้านเราเมืองเรานั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงเห็นว่า ทุกคนก็คือพสกนิกรของพระองค์ท่าน แม้แต่ในช่วงสงคราม ๕ วันกับเขมรที่ผ่านมา พระองค์ท่านก็อยู่แนวหน้าโดยตลอด แต่ไม่ให้ออกข่าว นักการเมืองของเราต้องรอเรื่องสงบแล้วค่อยไปเหยียบชายแดน แถมยังออกความเห็นโง่ ๆ อีกต่างหาก อะไรก็ไม่ว่า ไปเปิดเผยว่าชาวไทยของเราอยู่ที่ศูนย์อพยพจุดไหนบ้าง ? ทำอย่างกับกลัวเขมรจะไม่ยอมยิงระเบิดใส่..!
จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องทำใจเลยว่า เราเกิดในยุคนี้สมัยนี้ ถือว่าโชคดีเป็นอย่างยิ่งแล้ว ที่ยังมีพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว สมเด็จพระนางเจ้าฯ พระบรมราชินี เป็นหลักใจของเรา ยังมีกองทัพที่เข้มแข็งพอจะให้ชาวบ้านชาวเมืองเขาเกรงใจ แต่ไปเจอบรรดาผู้นำโง่ ๆ ที่เห็นแก่ประโยชน์ตนเอง ไปคอย "ดึงขาหลัง" จนกระทั่งกองทัพของเราทำอะไรก็ไม่ถนัด นอกจากทำใจแล้ว ก็ยังต้องเร่งสร้างบุญสร้างกุศล เพื่ออุทิศให้บรรดาเทวดาที่ปกปักรักษาประเทศไทยของเรา ให้ท่านทำหน้าที่ให้เข้มแข็งกว่านี้
กระผม/อาตมภาพบอกแล้วว่าทั้ง ๆ ที่เป็นพระก็ยัง "ของขึ้น" ถึงขนาดอาราธนาบารมีพระอยู่ในลักษณะของยันต์เกราะเพชร หรือการสะท้อนกลับ ใครทำอะไรไม่ดีกับประเทศไทยแถวชายแดน จะได้รับผลคืนไปทั้งสิ้น แล้วตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันนี้ ก็คงจะเห็นแล้วว่าใครบรรลัยไปบ้าง ? แต่ว่าเรื่องแบบนี้พูดไปก็ไม่มีหลักฐานยืนยัน ยกเว้นพวกที่ได้ทิพจักขุญาณเท่านั้น
แต่พวกเราก็ต้องช่วยกันคนละไม้คนละมือ เพราะว่าถ้าเราสูญเสียพื้นที่เมื่อไร ประเทศที่เล็ก ๆ แต่เหิมเกริมขนาดนี้ รับรองว่าไม่ได้คืบจะเอาศอก หากแต่ว่าได้คืบจะเอาครึ่งค่อนประเทศ..! โดยมีบรรดามหาอำนาจก็ดี นักการเมืองของต่างประเทศที่เห็นแก่ประโยชน์ของตนก็ตาม คอยให้ท้ายถือหางอยู่ ถ้าพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวไม่ได้เสด็จจีน แล้วประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ไม่ออกมาปราม คาดว่าป่านนี้คงปะทะกันไปอีกรอบหนึ่งแล้ว แต่ก็ยังประมาทไม่ได้ ต้องคอยเอาใจช่วยกันต่อไป
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันเสาร์ที่ ๑๕ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:20
|