เนื่องเพราะว่าบรรดานักการเมืองทั้งของเราและของประเทศรอบข้าง ล้วนแล้วแต่เห็นผลประโยชน์ของตนเองเป็นใหญ่ ไม่ได้เห็นผลประโยชน์ของชาติเป็นใหญ่..!
ดังนั้น..ประชาชนของเราจึงต้องอดทนอดกลั้น ต่อการยั่วยุของเขมรมาโดยตลอด แม้กระทั่งประเทศมาเลเซียที่อยู่ในฐานะของประธานอาเซียน ก็กล่าวหาไทยเราว่าไปรุกรานประเทศเขมร นายกรัฐมตรีเขมรเป็นผู้ที่ใฝ่สันติภาพ..!
ฟังดูแล้วเราจะเห็นว่า ในเรื่องของการเมืองนั้น เป็นการพลิกลิ้น กลับคำ สาดโคลนกันแบบไม่เกรงใจใคร ขอให้ได้ประโยชน์เข้าตัวเท่านั้นเอง จนกระทั่งท่านประธานาธิบดี สี จิ้นผิง ออกมาปราม จากคำกล่าวหาที่ว่าทหารไทยเหยียบกับระเบิดเก่า ประเทศมาเลเซียก็ต้องกลับลำ ๑๘๐ องศา บอกว่าเป็นกับระเบิดใหม่ แต่ผู้สื่อข่าวเสนอข่าวผิดพลาด..!
เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่านายกรัฐมนตรีของไทยรุ่นหลัง ๆ นี่หาคนทันเกมต่างประเทศยาก นายกรัฐมนตรีที่ทันเกมต่างประเทศที่สุด ซึ่งกระผม/อาตมภาพชื่นชมที่สุดก็คือพลเอกชาติชาย ชุณหะวัณ เนื่องเพราะว่าด้วยความที่ท่านเป็นลูกชายของจอมพลผิน ชุณหะวัณ จึงโดน "เตะสกัด" จากรอบทิศทาง เพราะเกรงว่าถ้าเป็นใหญ่ขึ้นมา แล้วจะเป็นหัวหน้าคณะปฏิวัติแบบพ่อ ท่านก็เลยโดนโยนไปเป็นทูตทหารสารพัดประเทศ "ดอง" อยู่แค่ยศพลตรีเท่านั้น จนกระทั่งมาเป็นนายกรัฐมนตรี ได้รับพระราชทานยศเป็นพลเอก
ด้วยความที่ท่านคร่ำหวอดในวงการทูตมาโดยตลอด จึงรู้ว่าอะไรเหมาะ อะไรควร โดยใช้คำพูดที่ว่า "เรื่องของการทูตต้องพูดให้ชัด แต่เตะไม่ถึง..!" ไม่เหมือนกับท่านนายกฯ ของเรา แทนที่จะบอกกล่าวกับต่างประเทศว่า "เขมรละเมิดสนธิสัญญาสันติภาพ" ดันไปประกาศว่า "ไทยฉีกสนธิสัญญาสันติภาพ..!" แทนที่จะเป็นพระเอกก็เลยกลายเป็นผู้ร้ายไปโดยปริยาย แล้วคำพูดประเภทโง่ ๆ ที่บอกว่า "ไทยไปรุกรานเขมรก่อนเหมือนกัน" ก็ยิ่งบรรลัยเข้าไปใหญ่ ก็เลยสงสัยว่านายกรัฐมนตรีไทยระยะหลัง ๆ นี้ เหลือสมองแค่ ๘๔,๐๐๐ เซลล์จริง ๆ กระมัง ?!!
แม้กระทั่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวที่ต้องบอกว่า ทรงชราภาพจนขนาดนี้แล้ว ยังต้องออกมาทำหน้าที่แทน มีใครรู้บ้างว่ารัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศของเราชื่ออะไร ? แล้วพูดอยู่ในลักษณะประมาณว่า ประเทศไทยของเราเอง ควรที่จะทำอย่างนั้น ควรที่จะทำอย่างนี้ ออกความเห็นมาแต่ละทีโดนชาวบ้าน "ยี้" มารอบทิศ..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 01:15
|