แล้วพวกเราก็ได้ข่าวว่าอาศุของน้องปุยนั้น ไปตกเครื่องที่ Kota Kinabalu เพราะว่าเครื่องจากทางด้านปีนังไปลงกัวลาลัมเปอร์ ๘ โมงกว่า เครื่องที่จะไป KK ออกตอน ๐๙.๑๕ น. แล้วประตูขึ้นเครื่องเพื่อต่อเครื่องก็ไกลกันมาก "พี่ศุ" ที่อายุมากแล้ว เดินไม่ทัน แล้วบริษัทการบินนี้ก็ตรงเวลาเหลือเกิน ไม่มี "ไฟนอลคอล" เสียด้วย เดินไปถึงประตูขึ้นเครื่องเขาก็ถอยเครื่องออกพอดี โดยที่ไม่มีการเหลียวแลผู้โดยสารที่หลงอยู่ ๑ คนเลย..!
ทำให้พวกเราต้องปลอบใจกันว่า "ตกเครื่องดีกว่าเครื่องตก..!" รับรองว่าจะต้องมีอะไรแน่นอน ไม่อย่างนั้นแล้วคงไม่ตกเครื่องแบบนี้ เมื่อลงสนามบินนานาชาติดอนเมือง มานั่งแท็กซี่แล้วถึงได้รู้ เพราะว่าคนงานของพี่ศุโดนตำรวจจับไป ๗ - ๘ คน ส่วนใหญ่เป็นต่างด้าวทั้งนั้น จึงต้องไปวิ่งเต้นเอาตัวคนงานออกมาให้ได้ ถ้าขืนไปเที่ยว งานนี้คนงานคงต้องติดคุกยาว ๆ กว่าเจ้านายจะกลับมาประกันตัวให้..!
พวกเราถึงได้รู้ว่า "เหตุการณ์ทุกอย่างที่เกิดขึ้นนั้นไม่ใช่เรื่องไม่ดี หากแต่ว่าเราจะต้องหาความดีจากเรื่องเหล่านั้นให้ได้" โดยเฉพาะการวัดกำลังใจของตนเอง เมื่อกระทบเรื่องไม่ดีก็ไม่หวั่นไหว เมื่อกระทบเรื่องดีก็ไม่เฟื่องฟู ต้องวางกำลังใจของเราอยู่ในอุเบกขารมณ์ให้ได้ ถ้าไม่ยินดียินร้ายกับอะไร ชีวิตก็จะง่ายขึ้นอีกมาก
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๑๔ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2025 เมื่อ 19:50
|