ดูแบบคำตอบเดียว
  #6  
เก่า 14-11-2025, 01:02
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,453
ได้ให้อนุโมทนา: 160,068
ได้รับอนุโมทนา 4,517,577 ครั้ง ใน 37,067 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เมื่อดูจนครบถ้วนแล้ว ก็วนลงมาทางด้านล่าง เป็นที่น่าเสียดายว่า วัดวาอารามเริ่มรกร้าง ทรุดโทรม เพราะว่าขนาดวัดใหญ่มาก แล้วระยะนี้นักท่องเที่ยวก็มาน้อย คาดว่าคงจะมาน้อยตั้งแต่หลังเชื้อไวรัสโควิด ๑๙ ระบาดแล้ว พวกเราเดินวนไปยังอาคารซึ่งมีพระพุทธรูปสมัยเชียงแสนแบบไทยตั้งอยู่ หลังจากถ่ายรูปจนทั่วแล้ว จึงได้วนออกมาทางด้านนอก นั่งรถรางกลับไปต่อรถตู้ มาลงที่ลานจอดรถ ปรากฏว่ารถบัสทัศนาจรขนาดใหญ่หลายคันมาจอดอยู่ นักท่องเที่ยวกำลังแห่กันขึ้นมา แต่เราลงมากันแล้ว..!

ทั้งจากที่ได้ทำการเรียกรถแกร็บมาถึง ปรากฏว่าอาเจ๊คนขับแกไม่รู้จักร้านอาหารที่เราจะไป หรือไม่ก็อาจจะโดนท่านผู้หวังดีบังตาเอาหรือเปล่าก็ไม่รู้ ? จึงเลี้ยวผิดแล้วผิดอีก จนกระทั่งพวกเราต้องอาศัย "กูเกิ้ลแม็พ" บอกทาง อาเจ๊พูดเป็นภาษาไทยว่า "ก็ไม่เห็นนิ" ก็คือออกสำเนียงปักษ์ใต้ของเราเลย ทำเอาพวกเราหัวเราะกันท้องคัดท้องแข็ง..!

หลังจากที่เดินหาร้านอาหารจนอ่อนใจ ก็เลี้ยวเข้าร้านที่ใกล้ที่สุด เมื่อกินแล้วก็ยังทึ่งว่าอาหารรสชาติดีมาก แถมราคาถูกเป็นพิเศษ เนื่องเพราะว่าหมูกรอบและไก่สับนั้น นอกจากจะกรอบอร่อย และหอมกลิ่นควันไ แบบย่างด้วยฟืนชนิดที่หอมติดจมูกเลยทีเดียว เนื้อหนังทั้งไก่ทั้งหมูยังนุ่มมากเป็นพิเศษ ที่ทึ่งกว่านั้นก็คือสั่งมา ๓ ชุดใหญ่ ราคาแค่ ๔๐ ริงกิตเท่านั้น..! ยังมองหน้ากันแล้วบอกว่า "ถ้าได้ของอร่อยราคาถูกแบบนี้ทุกครั้ง ต่อให้ท่านตั้งใจจะปิดหูปิดตา จูงไปทางไหนก็ยอมตามแต่โดยดี..!"

ออกจากร้านอาหารมา พวกเราก็เรียกรถแท็กซี่ ตรงไปยังปีนังฮิลล์ ซึ่งเป็นจุดไฮไลท์ส่วนหนึ่งของที่นี่ ทำการตีตั๋วแล้วก็นั่งรถรางไฟฟ้าขึ้นไปบนยอดเขา ด้านบนนี้มีทั้งสกายวอล์ค มีทั้งสถานที่จัดนิทรรศการ มีห้องน้ำหรู ๆ ให้เข้าอีกต่างหาก แล้วก็มีสารพัดร้านอาหาร ร้านขายของที่ระลึก ที่น่าทึ่งก็คือมีเทวาลัยของศาสนาฮินดู ซึ่งกระผม/อาตมภาพเข้าไปหยอดตู้ทำบุญด้วย มีมัสยิดของศาสนาอิสลาม แต่ว่าไม่ได้เข้าไปข้างใน เพราะเป็นข้อห้ามทางศาสนาของเขา ได้แต่ถ่ายรูปอยู่ข้างนอกเท่านั้น เดินขึ้นไปถึงจุดสูงสุดยังเป็น Guest House อีกต่างหาก..!

กระผม/อาตมภาพปรารภกับน้องปุยที่ตามมาคนเดียว เนื่องเพราะว่าน้องเล็กเจ็บสะโพก ขออนุญาตนั่งรออยู่ที่บริเวณที่นั่งหน้าห้องน้ำ ส่วนพี่ศุนั้นยอมแพ้อยู่ข้างล่าง ไม่ขึ้นบันไดมาด้วย บอกกับน้องปุยว่า ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพจะไม่สร้าง Guest House ตรงนี้ เนื่องเพราะว่าข้างล่างก็คือมัสยิดและเทวาลัย ซึ่งถ้าหากว่าศาสนาของเขาถือสาก็จะเป็นเรื่องแน่นอน..! ต่อให้ไม่ถือสาก็ยังถือว่าเป็นการปรามาสศาสนาของเขาอยู่ดี

พวกเราเดินย้อนกลับลงมา เจอพี่ศุรออยู่บริเวณตีนบันได แล้วก็เดินมารับน้องเล็กกลับไป เพื่อจะขึ้นรถรางลงข้างล่าง ขาลงนี้คนแน่นไปหมด พวกเราต้องรอรถรางวิ่งรับถึงสองรอบจึงได้ลงมา ตอนแรกยังตั้งใจจะไปวัดไทยในปีนังนี่อีก แต่กระผม/อาตมภาพบอกว่ากลับไปพักผ่อนกันเถอะ เดี๋ยวถ้าฝนมาแล้วจะลำบาก..! จึงได้เปลี่ยนแผนกลับโรงแรมไปพักผ่อน แล้วตอนค่ำบรรดาขาช็อปปิ้งเขาจะไปเดินกันเอง ส่วนกระผม/อาตมภาพ หลังจากที่บันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนแล้ว ก็อาจจะได้นอนยาว ๆ อีก ๑ วัน

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๓ พฤศจิกายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 15-11-2025 เมื่อ 03:08
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา