ดูแบบคำตอบเดียว
  #3  
เก่า เมื่อวานนี้, 22:28
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,424
ได้ให้อนุโมทนา: 160,037
ได้รับอนุโมทนา 4,516,386 ครั้ง ใน 37,038 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

ดังนั้น..ในส่วนนี้ต้องบอกว่าแต่ละวัดต้องมีการเตรียมรับมือเอาไว้เป็นการเฉพาะ ถ้าเป็นกระผม/อาตมภาพก็จะทำเขื่อนในลักษณะคล้ายกับทางด้านสำนักสงฆ์เกาะพระฤๅษี ซึ่งกระผม/อาตมภาพนั้นใช้ลองซีเมนต์ในขนาด ๘๐ เซ็นติเมตร ฝังชั้นแรกลงใต้ดิน แล้วก็เรียงชั้นต่อ ๆ ไปลดหลั่นกันขึ้นมา อย่างเช่นว่าถ้าชั้นแรก ๑๒ ใบ ชั้นที่สองก็จะเหลื่อมมาเป็น ๑๑ ใบ ชั้นที่สามก็เป็น ๑๐ ใบ ชั้นที่สี่ก็เป็น ๙ ใบ ในลักษณะแบบนี้ แล้วเทคอนกรีตเต็มแน่นทุกชั้น ก็จะกลายเป็นเขื่อนในลักษณะขั้นบันได ที่พอจะต้านแรงน้ำป่าเอาไว้ได้

ถ้าเรารู้ระดับน้ำสูงสุด ซึ่งสามารถสอบถามจากญาติโยมเก่าแก่ที่อยู่อาศัยริมน้ำใกล้วัด ว่าสูงประมาณเท่าไร ? ก็ทำเผื่อไว้สักชั้นสองชั้นก็ได้ ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนี้ ก็จะเป็นลักษณะของเขื่อนที่สามารถชมทิวทัศน์ริมน้ำได้อีกต่างหาก แต่ว่าค่าใช้จ่ายก็ค่อนข้างจะสูง แล้วในขณะเดียวกัน เราทำหน้าพื้นที่วัด แต่ถ้าพื้นที่ก่อนหรือหลังวัดไป ญาติโยมไม่ได้ทำก็เฮงพอกัน เนื่องเพราะว่าถึงเวลาน้ำก็จะไปล้นเข้าทางด้านนั้น..!

แบบเดียวกับจังหวัดชัยนาทที่ปลอดจากน้ำท่วมมา ๓๐ - ๔๐ ปีต่อเนื่องกัน เพราะว่าในสมัยท่านผู้ว่าฯ กาจ รักษ์มณี ท่านได้ทำถนนที่เป็นดินถมสูงจากพื้นขึ้นมาถึง ๔ - ๕ เมตร อยู่ในลักษณะการกั้นเขื่อนดินตลอดแนวจังหวัด ทำให้จังหวัดชัยนาทปลอดจากน้ำท่วมมาโดยตลอด แต่ปีนี้ความเก่าแก่ของเขื่อนดิน ทำให้น้ำเซาะถล่มทางด้านอำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท แล้วน้ำก็อ้อมเข้าจากทางด้านอำเภอสรรพยา มาถล่มตัวจังหวัดชัยนาททีหลัง ก็แปลว่าถ้าเครื่องมือที่เราป้องกันตลอดแนวเอาไว้ด้วยดี แต่ถ้าหัวท้ายไม่มีการป้องกัน ท้ายที่สุดก็ต้องเดือดร้อนเพราะน้ำท่วมจนได้..!

การที่เราจะอยู่ร่วมกับธรรมชาตินั้น ส่วนใหญ่แล้วก็จะเป็นการคล้อยตามธรรมชาติ ถ้าทุกท่านศึกษาวิถีชีวิตของคนไทยภาคกลางโบราณ จะเห็นว่าทุกบ้านทำเป็นบ้านใต้ถุนสูง ก็คืออยู่ในลักษณะสูงจากพื้นขึ้นมา ๓ เมตรบ้าง ๒ เมตรครึ่งบ้าง ถ้าเป็นหน้าแล้ง ใต้ถุนก็เอาไว้ทำกิจกรรมต่าง ๆ โดยที่มีความร้อนน้อยมาก เพราะว่านอกจากผ่านหลังคาแล้ว ก็ยังมีพื้นเรือนกั้นไว้อีกชั้นหนึ่ง พอถึงเวลาหน้าน้ำก็โยกย้ายขึ้นไปอยู่ชั้นบน โดยเฉพาะหน้าแล้งก็จะมีเรือขึ้นคานอยู่ พอใกล้หน้าน้ำก็จะมีการตอกหมัน ยาเรือ ทาน้ำมัน เตรียมการเอาไว้ ถึงเวลาหน้าน้ำก็แค่พลิกเรือลงน้ำ ผูกไว้กับหัวบันไดเท่านั้นเอง ต่อให้น้ำหลากมาเท่าไรก็ไม่เดือดร้อน สามารถที่จะสัญจรทางเรือได้
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:03
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 23 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา