ดูแบบคำตอบเดียว
  #17  
เก่า 27-10-2025, 22:25
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,392
ได้ให้อนุโมทนา: 159,943
ได้รับอนุโมทนา 4,515,221 ครั้ง ใน 37,006 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพราะฉะนั้น..พวกเราต้องพิจารณาวิปัสสนาญาณให้มากขึ้น เห็นทุกอย่างว่าไม่เที่ยงอย่างไร ? เป็นทุกข์อย่างไร ? ไม่ใช่เราไม่ใช่ของเราอย่างไร ? แล้วก็ถอนใจจากความยึดมั่นถือมั่นในตัวเองขึ้นมา เพราะว่าไม่มีไอ้ที่นั่งหัวโด่อยู่นี่หรอก สักแต่ว่าเป็นรูป สักแต่ว่าเป็นธาตุ ที่เรามาอาศัยอยู่ชั่วคราว ตามบุญตามกรรมที่ทำเอาไว้ พอถึงเวลาอยู่ไม่ได้ ต้องพังสลาย กลายเป็น ดิน น้ำ ไฟ ลม คืนให้กับโลกไป

เดี๋ยววันนี้ไม่มีที่ไปแล้ว ไม่เหลืออะไรแล้วนี่ เคว้งคว้างหาที่ยึดไม่ได้ วิ่งพล่านไปทั้งวัด..หมากัดแน่..! ถ้าหาที่ยึดไม่ได้ก็ พุทธัง สะระณัง คัจฉามิ ไว้ก่อนนะ คราวนี้พอเราซักซ้อมมาก ๆ เข้า กำลังใจคลายการยึดเกาะไปเรื่อย ๆ ของที่เคยรักก็รักน้อยลง ของที่เคยยึดมั่นก็ยึดน้อยลง ก็จะค่อย ๆ สลัด ตัดออก ไปทีละน้อย..ทีละน้อย บาลีเขาว่าจาโค คือจาคะ..บริจาค สละออก ปฏินิสสัคโค..โยนทิ้งไปเลย อันนี้แรงขึ้นไปอีกหน่อย

ถ้าหากว่ากำลังใจมาถึงตรงจุดนี้นี่ บางคนต่อให้ร่ำรวยแค่ไหนก็ไม่เอาแล้ว แต่ขอบอกว่ายังเป็นกำลังใจที่ยังไม่มั่นคงจริง ๆ ยังต้องระมัดระวังประคับประคองอยู่ เพราะว่าถ้าเผลอเมื่อไร อาจจะถอยกลับไปเห็นความดีความงามใหม่

เราจะเห็นมหาเศรษฐีพันล้านมาบวชอยู่วัดป่าเฉยเลย ประเภทลูกหลานของหลวงปู่ภัททิยศากยราชา ท่านเป็นพระมหากษัตริย์ สละราชสมบัติออกบวช ปลดโน่นนี่นั่นทิ้งได้หมด "โอ๊ย..สุขจริงหนอ..สุขจริงหนอ" ก่อนหน้านี้ทุกอย่างท่านต้องแบกทั้งหมด..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-10-2025 เมื่อ 02:16
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 16 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา