จนกระทั่งได้เวลา โชเฟอร์ก็พาพวกเราวิ่งไปยังสนามบินนานาชาติพาโร ครั้นเข้าไปถึง ปรากฏว่าทางโรงแรม Olathang ส่งเจ้าหน้าที่เอากระเป๋ามาดร็อปไว้แล้ว ทุกคนจึงเข้าไปเลือกกระเป๋าของตนเอง กระผม/อาตมภาพรับเอาเงินส่วนกลางซึ่งเฉลี่ยรวมกันคนละ ๓๐ ดอลลาร์ สำหรับมัคคุเทศก์ท้องถิ่นและพลขับของเรา ทำการมอบให้กับตัวแทนของเขามารับไป แล้วตัวเองยังควักกระเป๋าเติมให้ทุกคน อีกคนละ ๒๐ ดอลลาร์ต่างหาก เป็นอันว่าจ่ายไปเป็น ๑๐๐ ดอลลาร์เลยทีเดียว..!
เมื่อเข้าไปทางด้านใน เจ้าหน้าที่ก็ตรวจพาสปอร์ตกับตั๋วเครื่องบิน แล้วก็ทำการเช็คอิน กระผม/อาตมภาพรับหน้าที่แบกน้ำหนักกระเป๋าของเอ็นซีทัวร์ตามเคย เมื่อเข้ามาประทับตราที่บริเวณตรวจคนเข้าเมืองแล้ว ก็ผ่านเครื่องเอ็กซเรย์ ซึ่งกระผม/อาตมภาพขำก็ขำ ฉิวก็ฉิว เนื่องเพราะว่าผ้าสังฆาฏิเปล่า ๆ ไม่มีอะไรเลย เจ้าหน้าที่เองกวาดเครื่องผ่านทีไรก็เสียงดังทุกที เหมือนอย่างกับ " เจ้าแม่" ตั้งใจให้รู้ว่าผ้าผืนนี้ขลังอย่างนั้นแหละ..! จนกระผม/อาตมภาพต้องปลดออกมาส่งให้เขาไปตรวจค้นจนสบายใจ ถึงจะผ่านมาได้
ครั้นเข้ามาข้างในก็มีรูปมันดาลาขนาดมโหฬารให้พวกเราถ่ายรูปกัน แล้วไปนั่งรอ ทางเอ็นซีทัวร์แจกบัตรให้ไปรับเครื่องดื่มคนละชุดที่ร้าน กระผม/อาตมภาพไม่มีอารมณ์ที่จะดื่มอะไร เพราะว่าถนัดแต่น้ำร้อนอย่างเดียว จึงมาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน และได้ข่าวว่าวันนี้ไฟลท์ของเราต้องดีเลย์ด้วย เพราะว่าต้องบินไปรับผู้โดยสารที่สนามบินบักโดกราของประเทศอินเดีย ก่อนที่จะเข้าเมืองไทย จากแต่เดิมไปถึงประเทศไทยตอน ๒ ทุ่มครึ่ง คาดว่าอย่างเร็วที่สุด ๓ ทุ่มครึ่งจึงจะถึงท่าอากาศยานนานาชาติสุวรรณภูมิ แล้วพรุ่งนี้กระผม/อาตมภาพยังต้อง "เบิกตา" เดินทางตั้งแต่ตี ๕ เพื่อไปร่วมพิธีเปิดการอบรมก่อนสอบนักธรรมชั้นโทและชั้นเอก (สนามหลวง) ที่วัดไชยชุมพลชนะสงคราม (พระอารามหลวง) อีก พูดง่าย ๆ ว่ายิ่งงานรัดตัวมากเท่าไร ก็ยิ่งเหมือนกับโดนกลั่นแกล้งมากเท่านั้น..!
แต่ก็ขอขอบคุณทุกท่านที่ช่วยดูแลตลอดเส้นทาง กุศลบารมีที่กระผม/อาตมภาพสร้างมาตั้งแต่ต้นจนบัดนี้ และกุศลทั้งหลาย ไม่ว่าจะเป็นทาน เป็นศีล เป็นภาวนา ที่สร้างอยู่ตลอดเวลาในประเทศภูฏานแห่งนี้ ขอทุกท่านจงอนุโมทนา ประโยชน์และความสุขประการใดที่กระผม/อาตมภาพจะพึงได้รับ ขอให้ทุกท่านจงได้รับ ณ กาลบัดเดี๋ยวนี้เถิด..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๒๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:05
|