พวกเราใช้เวลาในที่นี่ค่อนข้างที่จะนาน กว่าจะออกมาข้างนอกก็ ๑๐ โมงกว่าแล้ว ทางด้านคุณตี๋และคุณการ์ตูนก็บอกว่าให้ไปชมพาโร ซอง ก็คือป้อมปราการเมืองพาโรอีกแห่งหนึ่ง น่าจะมีเวลาเพียงพอ พวกเราจึงวิ่งลงจากเขา ตรงไปยังพาโร ซองที่เป็นป้อมใหญ่โตมโหฬารมาก
แล้วส่วนหนึ่งที่เราเข้าชม ก็คือส่วนที่เขากันเอาไว้เป็นวัด มีกติกาเหมือนเดิมว่า ถ้าต้องถอดรองเท้าก็คือห้ามถ่ายรูป แต่กระผม/อาตมภาพนั้นไปถึงก็ถวายปัจจัยเป็นพุทธบูชาไป ๑,๐๐๐ งุลตรัม พูดง่าย ๆ ว่าตรงไหนมีที่ให้ก็ถวายลงตรงนั้น ทำเอาพระลามะที่ยืนเฝ้าอยู่มองด้วยความตะลึง จนกระทั่งลืมห้ามกระผม/อาตมภาพให้ถ่ายรูปไปโดยปริยาย..!
จนกระทั่งเพลกว่า ออกมาได้ก็วิ่งไปร้านอาหาร ร้านนี้เป็นอาหารแบบบุปเฟต์ตามเคย พวกเราตักกันตามอัธยาศัย และอัศจรรย์ก็คืออร่อยทุกอย่างเหมือนเดิม จนมีการแซวกันว่า "อาหารกลางวันมื้อนี้อร่อยทุกอย่าง ยกเว้นยำปลาดุกฟูที่ทางเอ็นซีทัวร์นำมาให้" ทำเอาทุกคนหัวเราะกันเกรียวกราวไปหมด..!
ครั้นอิ่มแล้ว พวกเราก็ออกเดินทางไปยังสถานที่สุดท้ายของวันนี้ ก็คือวัดคิชู ซึ่งเป็นวัดเก่าแก่ที่สุดของภูฏาน สร้างมาตั้งแต่สมัยที่ภูฏานยังเป็นส่วนหนึ่งของประเทศทิเบต เป็น ๑ ใน ๑๐๘ วัดที่พระเจ้าซองซานกัมโปมหาราช สร้างเป็นหมุดตรึงนางยักษิณีเอาไว้ ถ้าจำไม่ผิดวัดนี้ตรึงส่วนเท้าซ้ายของนางยักษิณีเอาไว้ และมีต้นสนไซเปรสซึ่งเป็นต้นไม้ประจำชาติของภูฎานอยู่ต้นหนึ่ง เก่าแก่จนประมาณอายุไม่ได้ กระผม/อาตมภาพเข้าไปนั่งเทียบ ยืนเทียบแล้ว เหลือตัวนิดเดียวเท่านั้น จึงให้คุณวีรวัฒน์ ตะล่อมสิน สามีของคุณไก่ (โสภา ตั้งอธิคม) ช่วยถ่ายรูปให้ แล้วถึงกลับออกมา
ปรากฏว่ายังมีเวลาเหลืออยู่ ทางด้านเอ็นซีทัวร์จึงพาตรงเข้าตัวเมืองไป เพื่อปล่อยให้พวกเราได้ช็อปปิ้งกันอีกรอบหนึ่ง แต่นอกจากแดดจะร้อนมากแล้ว ทุกคนก็ซื้อจนไม่มีกระเป๋าจะใส่ จึงไปลงเอยกันที่ร้านกาแฟ หลายต่อหลายคนก็สั่งทั้งกาแฟและขนมต่าง ๆ มา ส่วนกระผม/อาตมภาพมีหน้าที่ส่งงาน ตามงาน และสั่งงานทางไลน์
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:01
|