ไหน ๆ เมื่อจารแล้ว ก็เลยพลอยเสกไปถึงสิ่งที่ซื้อหามาในช่วง ๒ - ๓ วันนี้ ไม่ว่าจะเป็นวัวจามรี ซึ่งกระผม/อาตมภาพเรียกว่า "ไอ้เขาระฟ้า" เพราะว่าเขายาวผิดธรรมชาติไปหน่อย แต่กลายเป็นจุดเด่นที่ไม่เหมือนใคร ตลอดจนกระทั่งประคำมือ ๓ พวงที่ทำมาจากอำพัน แล้วก็สร้อยข้อมือ ๑ เส้น สร้อยคอ ๑ เส้นที่ทำจากหินเทอร์คอยซ์ ตลอดจนกระทั่งในส่วนของลูกแก้วลาพิส ลาซูรี
เมื่อเสกเสร็จสรรพเรียบร้อยก็คิดว่าจะมีใครบูชาหรือไม่ ? แต่ปรากฏว่าทันทีที่ข่าวรั่วออกไป ทุกอย่างก็หายวับไปกับตา ดีที่ได้ขยักเอาประคำมือเอาไว้ให้ลูกอ้วน (นางสาวภัทรวรรณ จะหวะ) ๑ เส้น ไม่เช่นนั้นแล้วก็คงจะไม่เหลืออะไรเลย..!
สำหรับวันนี้ พวกเรายังต้องพักอยู่ที่โรงแรม Olathang อีกคืนหนึ่ง เพียงแต่ว่าเราต้องตื่นเช้าเป็นพิเศษ ก็คือจะมีเสียงปลุกตอนตี ๕ ไปรับประทานอาหารตอน ๖ โมงเช้า แล้ว ๗ โมง พวกเราก็ต้องออกเดินทางกันทันที ไม่ทราบเหมือนกันว่าด้วยความตื่นเต้นที่จะได้ขี่ม้าหรืออย่างไร ? วันนี้ก็เลยทำให้ทุกคนไปถึงห้องอาหารก่อน ๖ โมง แต่ทางเจ้าหน้าที่ของโรงแรมก็รีบบริการพวกเราชนิดสุดใจขาดดิ้น
เมื่อฉันอาหารเสร็จเรียบร้อยแล้ว กระผม/อาตมภาพก็นำวัตถุมงคลที่เสกเมื่อคืน แจกจ่ายให้กับญาติโยมผู้ที่จับจองเป็นเจ้าของ แล้วก็ขึ้นไปนั่งรอบนรถ
ยังไม่ทันจะ ๗ โมงตามเวลานัด ทุกคนก็พร้อมกันหมดแล้ว พลขับจึงได้นำพวกเราวิ่งออกจากโรงแรม Olathang ตรงไปยังเขารังเสือ ซึ่งสังเกตจากระยะทางที่วิ่งแล้ว ตอนช่วงที่ลงจากโรงแรมเท่านั้นถึงจะเป็นทางลง นอกนั้นเมื่อผ่านถนนสายช็อปปิ้งเมื่อคืน วิ่งออกนอกเมืองไปแล้ว ถนนก็เริ่มคดเคี้ยวสูงขึ้นไปเรื่อย ๆ
จนกระทั่งท้ายที่สุดก็มาถึงบริเวณที่จอดรถนักท่องเที่ยว พวกเราเข้าห้องน้ำกันเสร็จเรียบร้อยแล้วก็มานั่งรอเวลา โดยที่น้องการ์ตูน (นางสาวศรัณย์พร บุรินทรโกษฐ์) ได้ทำการติดต่อม้าที่จะมารับพวกเราเอาไว้ พวกเราต้องรอจนกระทั่งเขาจัดม้าให้ได้ครบตามจำนวนคน ซึ่งค่าขี่ม้านั้นอยู่ที่ ๒๐ ดอลลาร์ ขาขึ้นอย่างเดียว ขาลงต้องเดินเองเท่านั้น..!
แต่ว่าในคณะของเราทั้งหมด ๒๕ คนนั้น มีคุณมอส (นายพรหมพงศ์ ตันติจินดา) เพียงคนเดียวที่ขอเดินขึ้นตั้งแต่ด้านล่างเลย เมื่อสอบถามด้วยความเป็นห่วง คุณมอสก็ชี้แจงว่า ตนเองเดินเทร็กกิ้งมาตลอด แต่ว่าขอฝากคุณแม่ (คุณอำไพ ตันติจินดา) ขึ้นม้าไปด้วย
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-10-2025 เมื่อ 03:53
|