เมื่อได้รูปหมู่แล้ว กระผม/อาตมภาพก็เดินถ่ายรูปรอบข้าง ซึ่งเขามีปั้นสัตว์สำคัญเอาไว้ ก็คือช้าง ๑ คู่ ม้า ๑ คู่ นกยูง ๑ คู่ และพญาครุฑ ๑ คู่ ประดับรวมแล้วทั้ง ๘ ทิศพอดี ด้านบนสุดนั้นเมื่อถอดรองเท้าเข้าไปภายในแล้ว ก็เป็นสถานที่บูชาพระโพธิสัตว์และองค์พระบิดาแห่งเมืองภูฏาน
กระผม/อาตมภาพหยอดตู้บริจาคไปตู้ละ ๑๐๐ งุลตรัม แล้วก็ลงมานั่งรอที่รถข้างล่าง อากาศแถวนี้ค่อนข้างจะเย็นมาก ก็คืออยู่ที่ ๑๒ องศาเซลเซียส ประกอบกับลมแรงเหลือเกิน ไม่เหมาะที่จะมาในฤดูหนาว
รอจนกระทั่งบ่าย ๒ ครึ่ง พวกเราลงมาพร้อมเพรียงกันแล้ว ทางเอ็นซีทัวร์ก็พามาซื้อของที่ระลึก กระผม/อาตมภาพเดินดูรอบร้านแล้ว กระซิบบอกหลายคนว่าของทำเลียนแบบมีเยอะมาก ถ้าจะซื้อพวกอัญมณี โปรดระมัดระวังด้วย..!
ครั้นได้ของที่ระลึกกันแล้ว ก็ข้ามมาทางด้านไปรษณีย์ภูฏาน เพื่อที่จะรอน้องการ์ตูน (นางสาวศรันย์พร บุรินทรโกษฐ์) เอารูปของพวกเราไปทำเป็นแสตมป์ของภูฏาน ซึ่งดวงตราไปรษณียากรนี้ เขาทำให้คนละ ๑ แผ่น ในราคา ๕๐๐ งุลตรัม ซึ่งเป็นรูปที่เราจะพอใจที่สุดในการเดินทางเที่ยวนี้แล้วส่งให้เขาไป ส่วนอื่น ๆ ก็เป็นข้าวของเครื่องใช้ ตลอดจนกระทั่งของที่ระลึกต่าง ๆ และดวงตราไปรษณีย์รุ่นเก่า ๆ ที่เขาจำหน่ายให้เป็นของที่ระลึก
กระผม/อาตมภาพฉวยโอกาสที่นั่งรอ ทำการบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุน เสร็จจากตรงนี้แล้ว พวกเรายังต้องเดินทางย้อนกลับไปยังเมืองพาโร ซึ่งเป็นเมืองที่พวกเรานั่งเครื่องบินมาลง เพื่อที่พรุ่งนี้จะได้ไปยังไฮไลท์ของทริป ก็คือขี่ม้าขึ้นเขารังเสือนั่นเอง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันศุกร์ที่ ๒๔ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2025 เมื่อ 02:07
|