เมื่ออิ่มแล้ว พวกเราออกมารอเวลาเที่ยงครึ่ง ตามที่นัดกับรถบัสที่ ๒ เอาไว้ แล้วมุ่งตรงไปยังอนุสรณ์สถานแห่งชาติ ซึ่งสร้างถวายสมเด็จพระราชาธิบดีจิกมี ดอร์จี วังชุก รัชกาลที่ ๓ ของราชวงศ์วังชุกแห่งเมืองภูฏาน ซึ่งก็คือพระเจดีย์องค์ใหญ่ ที่พวกเราเห็นที่หน้าร้านอาหารในวันก่อนนั่นเอง
ทุกคนหามุมถ่ายรูปกันตามอัธยาศัย โดยเฉพาะวันนี้ ทางเอ็นซีทัวร์จะขอรูปทุกคนไปทำเป็นแสตมป์เมืองภูฏานให้ กระผม/อาตมภาพถ่ายรูปแล้วก็เดินเข้าไปทางด้านใน เสียดายว่าภายในที่มีบรรดารูปปั้นสวย ๆ งาม ๆ ในหลายชั้นเจดีย์นั้นเขาห้ามถ่ายรูป กระผม/อาตมภาพเดินขึ้นไปชมรูปทีละชั้น ๆ ซึ่งพื้นที่ด้านในคับแคบไปหน่อย ไม่สามารถที่จะชมรายละเอียดทุกอย่างได้ดั่งใจ
จนกระทั่งไปถึงชั้นบนสุด ซึ่งน่าจะเป็นบนยอดพระเจดีย์แล้ว ประตูเขางับปิดเอาไว้ ไม่ได้ใส่กุญแจ แต่มีป้าย No Entry กระผม/อาตมภาพจึงเดินย้อนกลับลงมา ฟังไกด์บรรยายเรื่องพระพุทธศาสนาวัชรยาน ที่เป็นการผสมผสานระหว่างมหายานกับตันตรยาน
จนกระทั่งจบแล้วก็ลงมาข้างล่าง รอรถมารับพวกเรา มุ่งตรงขึ้นเขาไปยังยอดเขาเมืองทิมพู ซึ่งเป็นที่ตั้งของหลวงพ่อโตดอร์เดนมา ระยะทางที่ขึ้นไปไม่ใช่ใกล้ ๆ เลย แต่ว่าในวันที่พระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้าสุทิดา พัชรสุธาพิมลลักษณ พระบรมราชินีของเราเสด็จมานั้น ชาวภูฏานเป็นแสน ๆ คน เดินเท้าจากเชิงเขาขึ้นไปถวายการต้อนรับที่หน้าหลวงพ่อโตดอร์เดนมา ต้องบอกว่าศรัทธาของชาวภูฏานนั้นช่างยิ่งใหญ่จริง ๆ..!
หลวงพ่อโตดอร์เดนมานั้นเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์ สูง ๕๑.๕๐ เมตร ก็คือ ๕๑ เมตรครึ่ง เขาบอกว่าเป็นพระพุทธรูปสัมฤทธิ์กลางแจ้งที่ใหญ่ที่สุดในโลก กระผม/อาตมภาพเดินหามุมถ่ายรูปโดยรอบหลวงพ่อโต ทางด้านหน้าเขามีซุ้มสำหรับถวายเครื่องสักการะและตามประทีป ทำให้บังหน้าหลวงพ่อจนไม่สามารถจะถ่ายรูปหมู่ได้ ประกอบกับอยู่ในมุมย้อนแสงด้วย จึงมาถ่ายรูปกันหน้าเครื่องสักการะมหึมา ซึ่งถ้าเป็นบ้านเราก็คือบายศรีนั่นเอง แต่เป็นต้นบายศรีที่สูงหลายสิบเมตร..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-10-2025 เมื่อ 02:05
|