ภูฏานเป็นประเทศเล็ก ๆ มีประชากรแค่ประมาณ ๘ แสนคนเท่านั้น รายได้หลักเข้าประเทศก็คือการจำหน่ายไฟฟ้าจากเขื่อนพลังน้ำให้กับประเทศอินเดีย และการท่องเที่ยว ซึ่งทางภูฏานพยายามจำกัดเป็นอย่างยิ่ง รับนักท่องเที่ยวน้อยมาก ๆ วันหนึ่งมีเที่ยวบินแค่ ๕ เที่ยวเท่านั้น ก็คือจากประเทศไทย ๒ เที่ยว จากประเทศอินเดียและสิงคโปร์ประเทศละ ๑ เที่ยว และยังมีจากประเทศเนปาล ซึ่งอาจจะมีมา ๑ เที่ยว หรือว่าถ้าวันนั้นคนน้อยเขาอาจจะไม่บินมาก็ได้
ก็แปลว่านับแล้วจะมีนักท่องเที่ยวเข้ามาแน่ ๆ วันหนึ่งประมาณ ๖๐๐ คนเท่านั้น ซึ่งจำนวนที่จำกัดนี้ ทำให้เขาสามารถควบคุมทุกอย่างเอาไว้ได้ แม้แต่ร้านอาหารใหญ่ ๆ ก็ไม่มี มีเพียงร้านอาหารขนาดเล็ก ซึ่งรับนักท่องเที่ยวพร้อม ๆ กันได้ไม่เกิน ๒๐ คนเท่านั้น เรียกว่าเป็นการกระจายรายได้ ก็คือถ้าร้านไหนรับจองแล้ว ท่านก็ต้องวิ่งไปหาร้านอื่นกันต่อไป..!
รถยนต์ในประเทศนี้ ส่วนใหญ่สำหรับนักท่องเที่ยวก็เป็นประมาณมินิบัสอย่างที่พวกเรานั่งกันมา เหตุก็เพราะว่าถนนนั้นวิ่งคดเคี้ยวไปตามภูเขา และเป็นถนนแคบ ๆ รถใหญ่ไม่สามารถที่จะเข้าโค้งได้ หรือถ้าจะฝืนเข้าโค้งก็แบบเดียวกับที่กระผม/อาตมภาพไปเจอมาที่เมืองตองยี ประเทศพม่า ก็คือจากรถเมล์สั้น ๆ ที่เราเคยชิน สามารถเข้าโค้งเขาชานโยม่าได้โดยไม่ลำบากมากนัก ขาลงเราสามารถจองรถทัวร์ใหม่เอี่ยม ซึ่งซื้อมือสองมาจากประเทศญี่ปุ่นได้ จนรู้สึกรื่นเริงบันเทิงใจมาก
แต่ที่ไหนได้..ใช้เวลาวิ่งมากกว่ารถขนาดสั้นเกือบ ๓ ชั่วโมง..! เพราะว่าถนนบนเขาชานโยม่า ซึ่งคดเคี้ยวเลี้ยวลดไปมานั้น แทบทุกโค้งรถจะต้องหยุดเกือบนิ่งสนิท ค่อย ๆ ขยับหมุนกว่าที่จะเข้าโค้งได้ เพิ่งจะตั้งลำก็เจอโค้งต่อไปอีกแล้ว ดังนั้น..ทางประเทศภูฏานจึงใช้รถขนาดใหญ่ที่สุด ก็ประมาณมินิบัสเท่านั้น
สำหรับรถเล็กที่สังเกตดูเป็นรถผลิตในอินเดีย ยี่ห้อมหินทรา แม้กระทั่งสถานีบริการน้ำมันก็เป็นยี่ห้อภารตะ จากประเทศอินเดียเช่นกัน แสดงว่าประเทศอินเดียมีอิทธิพลต่อประเทศภูฏานค่อนข้างสูง แม้กระทั่งเงินรูปี ก็แลกกัน ๑ : ๑ กับเงินงุลตรัมของประเทศภูฏานแห่งนี้ ดังนั้น..ในส่วนของประเทศเล็ก ๆ ที่จะประคับประคองตนให้อยู่ได้ ท่ามกลางมหาอำนาจอย่างอินเดียหรือว่าจีนนั้น เป็นเรื่องที่ต้องบริหารจัดการด้วยความระมัดระวังรอบคอบเป็นอย่างยิ่ง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:25
|