แต่พอเมื่อมีคนดึงเอาต้นหญ้าไปให้ แล้วบรรดาทาคินแห่กันเข้ามากิน กระผม/อาตมภาพจึงดึงเอายอดไผ่ไปให้ ปรากฏว่าพวกเจ้าตัวประหลาดนี้แย่งกันใหญ่ เหตุที่เรียกว่าตัวประหลาด เพราะว่ามีเขาเหมือนวัว มีตัวเหมือนแพะ แต่เป็นแพะที่ตัวใหญ่เท่าวัวนั่นเอง..! จนกระทั่งเจ้าหน้าที่ต้องมาห้ามว่าไม่ให้เลี้ยงอาหารสัตว์พวกนี้ พวกเราจึงต้องถอยออกมาด้วยความเสียดาย ขึ้นไปรับน้ำชากาแฟกันบนร้านของเขา ซึ่งจะเรียกว่า "คาเฟ่แมว" ก็น่าจะได้ เพราะว่ามีแมวจอมป่วนอยู่ตัวหนึ่ง วิ่งไปโต๊ะโน้นบ้าง โต๊ะนี้บ้าง เผื่อว่าจะมีอะไรให้กิน..!
ครั้นรับคาเฟอีนไปแล้ว พวกเราก็ลงจากเขาตรงไปยังสถานที่พักในคืนนี้ก่อน ก็คือโรงแรม Phuntsho Pelri โดยที่พวกเราเข้าที่พัก อาบน้ำอาบท่า พักผ่อนกันก่อน เนื่องจากว่าโปรแกรมต่อไปก็คือ เราจะเข้าชมพระราชวังที่เปิดตั้งแต่ ๕ โมงเย็นเป็นต้นไป จึงมีเวลาพักผ่อนประมาณ ๒ ชั่วโมง
กระผม/อาตมภาพไม่สามารถที่จะหาน้ำร้อนมาอาบได้ ไม่ทราบว่าเปิดเป็นคนแรก ๆ แล้วน้ำไม่ร้อนหรือเปล่า ? แถมยังมีป้ายบอกให้ช่วยกันประหยัดน้ำ จึงใช้วิธีวิ่งผ่านน้ำ แล้วก็มาบันทึกเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนของวันนี้เอาไว้ก่อน เผื่อว่าถ้ากลับมาจากการไปชมพระราชวังแล้วไม่มีเวลา ทุกท่านจะได้ฟังเสียงธรรมจากวัดท่าขนุนวันนี้โดยไม่ขาดช่วงลง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 03:08
|