อีกพวกหนึ่งเข้าป่า ตรงนี้กระผม/อาตมภาพเจอมาด้วยตนเอง ก็คือไปหาที่เสพยาบ้า..! ไม่ต้องกลัวว่าตำรวจจะจับ เพราะว่าตำรวจไม่เดินตามเข้าป่าไปขนาดนั้นอยู่แล้ว พอถึงเวลาเมายาบ้าขึ้นมา ไม่มีอะไรจะทำก็แข่งกันวิ่งขึ้นเขา หรือไม่ก็ผลัดกันเอามีดสปาตาร์เฉาะกบาลกัน..! เลือดไหลท่วมจนกระผม/อาตมภาพต้องลากออกมาหาหมอ ก็เลยกลายเป็นว่าการธุดงค์ในปัจจุบันนี้ ส่วนหนึ่งที่เสียหายเพราะว่าไม่ได้ไปเพื่อขัดเกลากิเลสกัน
โดยเฉพาะบางท่านที่พบในป่า ทุกท่านก็คงจะเห็นว่าย่ามธุดงค์ใบใหญ่ขนาดไหน ? กระผม/อาตมภาพเองใช้ย่ามเล็กตามปกติ เพราะว่าแทบจะไม่ได้ใส่อะไรเลย ข้าวของอื่น ๆ ก็ใส่อยู่ในบาตรแล้ว ก็จะมีย่ามเล็ก ๑ ใบเผื่อต้องใส่ของอื่น มีบาตรที่เป็นถุงสัมภาระบรรจุของ แล้วก็มีกระติกน้ำเท่านั้น
แต่ไปเจอพระธุดงค์บางคณะ พอเขาเห็นเข้าก็ถามว่า "นี่ท่านมาทำอะไร ?" ตอบไปว่า "ธุดงค์เหมือนกับท่านนั่นแหละ..แล้วผมมั่นใจว่าผมอยู่ได้นานกว่าด้วย" เพราะว่าของท่านใช้ไม้คานหาบย่ามธุดงค์ไป ๔ ใบ..! ถ้ากระผม/อาตมภาพขนของไปขนาดนั้นก็คือย้ายวัดแล้ว..!
ดังนั้น..การธุดงค์ในปัจจุบันนี้ บางทีก็แค่เปลี่ยนที่กินเปลี่ยนที่นอนแค่นั้น แบกของไปมากมายขนาดนั้น แล้วจะไปขัดเกลาอะไรตัวเองได้ ? โดยเฉพาะไปกันเป็นคณะใหญ่ ๆ
มีอยู่ช่วงหนึ่ง กระผม/อาตมภาพไปเจอธุดงค์คณะใหญ่ เขาเดินกัน ๓๐๐ รูป..! ทำเอาหลงป่าไปเลย เหตุที่หลงก็เพราะว่าด่านสัตว์ที่เราอาศัยเดิน โดนพระเณร ๓๐๐ รูปเดินแหลกลาญไปหมด หาทางเดิมของตัวเองไม่เจอ..! แล้วแต่ละท่านก็ไม่ทราบว่ากลัวหลงอะไรขนาดนั้น มีการฉีกเศษผ้าอาบผูกไว้เป็นระยะ ๆ ๒ ก้าว ๓ ก้าวก็ผูกชิ้นหนึ่ง ๒ ก้าว ๓ ก้าวก็ผูกชิ้นหนึ่ง กระผม/อาตมภาพยังคิดว่า "แล้วมึงจะเอาผ้าที่ไหนมาเยอะแยะขนาดนั้น ?"
ท้ายสุดไปได้ไม่ไกล ก็เริ่มเห็นเศษรัดประคดผูกไว้ "ดูท่ามึงไม่รอดแน่นอน..!" เพราะว่าถ้าตามที่กระผม/อาตมภาพเดินก็คือบางที ๒๐๐ - ๓๐๐ เมตร ถึงจะเอามีดเฉาะต้นไม้ไว้สักรอยหนึ่ง เผื่อว่าขากลับเราจะย้อนกลับทางเดิม ส่วนใหญ่ก็ใช้วิธีพับยอดหญ้าเอาไว้ รอยพับก็คือทางที่เราจะเดินกลับ ก็แปลว่าต้องพับชี้ไปย้อนหลัง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 21-10-2025 เมื่อ 01:51
|