วันนี้ตรงกับวันเสาร์ที่ ๑๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ถ้าทุกท่านสังเกตจะเห็นว่า "ลมเหนือ" มาแล้ว ก็แปลว่าอากาศหนาวกำลังจะมาเยือนพวกเรา แต่คราวนี้ช่วงอากาศเปลี่ยนมักจะเจ็บไข้ได้ป่วยกัน ใครที่ไวต่ออากาศก็หาพวกยาแก้แพ้ฉันไว้สักเม็ดสองเม็ด
แต่ถ้าเป็นโบราณเขาแก้ด้วยอาหาร เขาเรียกว่า "อาหารเป็นยา" ส่วนใหญ่หน้านี้บรรดาแม่บ้านแม่ครัวก็มักจะทำ "แกงส้มดอกแค" เพื่อที่กินเข้าไปแล้ว ร่างกายจะได้ไม่เป็นหวัดง่าย สมัยนี้หมอเขามักง่าย ใช้วิธีจ่ายยาวิตามินซีให้ ซึ่งผลก็เป็นอย่างเดียวกัน เพราะว่าแกงส้มก็อาศัยรสเปรี้ยว ซึ่งก็คือวิตามินซีนั่นเอง ในการป้องกันหวัด หรือที่คนรุ่นเก่า ๆ เขาเรียกว่า "ไข้หัวลม"
โดยเฉพาะถ้าเด็ก ๆ เป็นหวัด ก็จะให้อาบน้ำอุ่นแล้วก็มีการ "สุมหัว" คำว่า "สุมหัว" ในที่นี้ก็คือใช้สมุนไพรในครัวเรือน อย่างเช่นว่าหัวหอม หรือว่าใบมะขามอ่อน ตำพอแหลก เสร็จแล้วก็ห่อผ้าโปะหัวเด็ก พร้อมกับให้อาบน้ำอุ่น ซึ่งเป็นเรื่องที่แปลกดีเหมือนกัน เพราะว่าบางทีเด็กเป็นหวัด น้ำมูกเต็มจมูก หายใจแทบจะไม่ออก พอโดนสุมหัวเข้าไป รู้สึกว่าจมูกโล่ง หายใจได้ง่ายขึ้น
เรื่องของคนสมัยก่อนต้องบอกว่ารักษากันตามฤดูกาล แต่ละระยะ แต่ละเวลา ส่วนใหญ่จะเจ็บไข้ได้ป่วยลักษณะไหน ก็มีการแก้ไขกันไปตามนั้น
คราวนี้ในเรื่องของดินฟ้าอากาศ ถ้าหากว่าสมาธิของเราทรงตัว ผลกระทบก็มีน้อย โดยเฉพาะท่านที่ทรงฌานได้ใหม่ ๆ จะรู้สึกว่าตากแดดก็ไม่ร้อน ตากฝนก็ไม่หนาว สภาพจิตมีความสุขอยู่กับภายในของเรา เพราะว่าปลอดจาก รัก โลภ โกรธ หลง ชั่วคราว คนที่โดน ไฟรัก ไฟโลภ ไฟโกรธ ไฟหลง เผาอยู่ตลอดเวลา ถึงเวลาไฟดับลงด้วยอำนาจสมาธิ บอกไม่ถูกว่ามีความสุขขนาดไหน แต่ทำให้บุคคลส่วนหนึ่งติดอยู่ตรงนั้น ก็เลยหาความก้าวหน้ามากกว่านั้นไม่ได้..!
เพียงแต่ว่าถ้าเราทรงฌานได้ ผลกระทบจากดินฟ้าอากาศก็มีน้อย เหมือนอย่างกับบรรดาโยคี หรือว่านักบวชของทิเบต ที่ไปนั่งกรรมฐานกันท่ามกลางยอดเขาหิมะ..! บางคนหิมะตกท่วมตัวเลย แต่ก็ไม่เห็นจะเป็นอะไร เพราะว่าอำนาจสมาธิสามารถคุ้มครองได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:14
|