ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 18-10-2025, 00:47
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,303
ได้ให้อนุโมทนา: 159,794
ได้รับอนุโมทนา 4,512,500 ครั้ง ใน 36,916 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

แบบเดียวกับที่หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน จังหวัดสุพรรณบุรี ท่านมีน้าเป็นเจ้าคุณอยู่วัดใหญ่ในกรุงเทพฯ หลวงพ่อโหน่งตั้งใจว่าถ้าบวชก็จะพยายามละกิเลสให้ได้ แต่ด้วยความที่ว่าทางบ้านยุให้ไปบวชกับน้าที่เป็นเจ้าคุณ ท่านก็เลยเดินทางเข้ากรุงเทพฯ ไปกราบหลวงน้า พร้อมกับถามตรง ๆ ว่า "หลวงน้าบวชมาจนเป็นเจ้าคุณแล้ว ละกิเลสอะไรได้บ้างครับ ?" หลวงน้าบอกว่า "แกไปเปิดดูในห้องข้าก็จะรู้เอง"

พอหลวงพ่อโหน่งเปิดเข้าไปดู แล้วออกมากราบงาม ๓ ที บอกว่า "ถ้าอย่างนั้น ผมขอกลับไปบวชที่บ้านนอกดีกว่า" เนื่องเพราะว่าภายในห้องนั้นมีแต่พวกข้าวของเครื่องใช้สวย ๆ งาม ๆ ประเภทโต๊ะหมู่มุก โต๊ะเก้าอี้มุก ตะลุ่มมุก เหล่านั้นเป็นต้น พอท่านเห็นก็รู้เลยว่าไม่ใช่เรื่องของบุคคลที่บวชมาเพื่อละกิเลส

ดังนั้น..ถ้าบวชกับเจ้าคุณหลวงน้าของท่านก็คงจะไม่ได้อะไร ท่านจึงกลับไปบวชที่อำเภอสองพี่น้อง จังหวัดสุพรรณบุรี บ้านเกิดของท่าน แล้วก็ไปศึกษาวิชากรรมฐานกับหลวงปู่เนียม วัดน้อย ที่อำเภอบางปลาม้า จังหวัดสุพรรณบุรี ซึ่งสมัยก่อนการเดินทางไม่ได้ง่ายแบบนี้ ถ้าเป็นหน้าน้ำก็ต้องแจวเรือลัดทุ่งไปเป็นวัน ๆ ถ้าหากว่าเป็นหน้าแล้งก็เดินลัดทุ่งนาไป

จนกระทั่งท่านศึกษากรรมฐานได้เชี่ยวชาญทะลุปรุโปร่ง ถึงขนาดที่หลวงปู่ปาน วัดบางนมโค ที่เป็นศิษย์น้อง คือไปกราบหลวงปู่เนียมทีหลัง หลวงปู่เนียมบอกกับหลวงปู่ปานว่า "ถ้าแกมีอะไรสงสัยข้องใจ ให้ไปหาท่านโหน่งที่สองพี่น้อง เขาสามารถแทนข้าได้"
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 18-10-2025 เมื่อ 01:25
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 27 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา