แล้วที่หนักกว่านั้นก็คือมีเมล็ดแตงโม มีเมล็ดทานตะวันเสิร์ฟให้ทุกโต๊ะ โดยเฉพาะงานสวดศพตอนค่ำ แล้วท่านลองคิดดูว่าภาพพระภิกษุไปนั่งแทะเมล็ดแตงโม หรือว่าเมล็ดทานตะวันตอนค่ำ จะงดงามดีหรือไฉน ? จึงเป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องเคร่งครัดกับตนเอง อยู่ในลักษณะตึงเอาไว้ก่อน ถ้าผ่อนแล้วจะพอดี ถ้าท่านไปหย่อนยานเสียตั้งแต่แรก ก็ไม่ต้องไปพูดถึงอีกแล้ว
ถ้าหลายท่านสังเกตจะเห็นว่า เมื่อเอ่ยถึงอะไร กระผม/อาตมภาพจะบอกก่อนเลยว่าต้องอาบัติหรือเปล่า ? ก็คือศีลพระขาดหรือไม่ ? ก็แปลว่าสติของท่านจะต้องจดจ่ออยู่กับศีลของตนเอง ถ้าเราไม่ละอายชั่วกลัวบาป ไม่รักศีลของตนเอง ก็ไม่รู้ว่าจะบวชเข้ามาทำอะไร ? เพราะว่าหานรกใส่ตัวเสียเปล่า ๆ จึงเป็นเรื่องที่กระผม/อาตมภาพอยากจะบอกกับพวกท่านว่า ต้องศึกษาให้ชำนาญเข้าไว้
วันก่อนเพื่อนพระส่งภาพโยมเลี้ยงหมูกระทะมา กระผม/อาตมภาพบอกไปเดี๋ยวนั้นเลยว่า "อย่าส่งต่อ..ดราม่าเยอะ" เนื่องเพราะว่าพระเราห้ามหุงต้มอาหารเอง ห้ามเก็บอาหารไว้เอง ห้ามเก็บอาหารไว้ในที่อยู่ หมูกระทะน่าจะจัดอยู่ในประเภทหุงต้มเอง เพราะว่าที่เขามาก็คืออาหารสด เราก็ต้องมานั่งปิ้งนั่งย่างจนจีวรเหม็นหึ่งไปหมด..! ทันทีที่เขาส่งรูปมา กระผม/อาตมภาพก็บอกไปแบบนั้น
ก็แสดงว่าถ้ากำลังใจของเรารู้ระมัดระวังในศีลอยู่ ขยับตัวไปทางไหน ถ้าสติสมบูรณ์ก็จะรู้ว่าศีลขาดหรือไม่ ? อย่าไปให้อภัยตัวเอง เพราะว่าถ้าให้อภัยตัวเองครั้งหนึ่งจะมีครั้งต่อ ๆ ไปทันที เพราะกิเลสจะถือเป็นข้ออ้างว่า "คราวที่แล้วยังทำได้เลย..!"
ดังนั้น..ในสถานการณ์ของวงการสงฆ์ในปัจจุบัน วิธีที่ดีที่สุดก็คือขัดเกลาตนเองของเรา พยายามทำตนให้เป็นพระภิกษุสงฆ์ที่ดี ให้มากที่สุดเท่าที่จะมากได้ ถ้าไม่สามารถสร้างความเจริญให้กับพระพุทธศาสนาได้ เราก็อย่าเป็นคนทำให้พระพุทธศาสนานี้ต้องพังลงไปด้วยมือของเราเอง..!
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๑๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-10-2025 เมื่อ 01:15
|