ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 17-10-2025, 00:58
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,303
ได้ให้อนุโมทนา: 159,794
ได้รับอนุโมทนา 4,512,546 ครั้ง ใน 36,916 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

หลายท่านอาจจะคิดว่าเราเพิ่งบวชไม่นาน แต่ท่านลองคิดดูว่า การอุปสมบทหมู่ครั้งต่อไปของวัดท่าขนุนก็คือช่วงลอยกระทง ก็แปลว่าถ้ามีพระบวชเข้ามา ท่านก็เป็นรุ่นพี่ แล้วถึงเวลารุ่นน้องสอบถามอะไร เราเองไม่ได้ตั้งใจเรียน ไม่ได้ตั้งใจศึกษา ก็มักจะกำหนดจดจำแล้วก็เอาไปบอกต่อกันผิด ๆ อย่างที่กระผม/อาตมภาพเคยเจอมาด้วยตนเอง ก็คือมีผู้ที่เป็นนักบวชรุ่นพี่เขาแนะนำว่า "ขึ้นชื่อว่าผลไม้ ที่ขึ้นชื่อด้วยคำว่า "มะ" ทุกอย่าง สามารถฉันหลังเพลได้" กระผม/อาตมภาพพยายามที่จะหาอ่านตำรา หาข้อมูลแทบเป็นแทบตายยังไม่รู้เลยว่า เรื่องที่รุ่นพี่ท่านนั้นพูดเอามาจากไหน ?

แล้วทุกท่านก็จะเห็นว่าปัจจุบันนี้ แม้แต่ทางคณะสงฆ์ธรรมยุต ก็ไม่ได้เคร่งครัดต่อศีลต่อธรรมอย่างจริงจัง ล่าสุดที่บางท่านไปในงานของวัดธรรมยุต จะเห็นว่าแม้เป็นตอนค่ำ เขาก็เสิร์ฟน้ำมะพร้าวอ่อนมา ทั้ง ๆ ที่มะพร้าวอ่อนเป็น "มหาผล" ต่อให้เป็นน้ำก็ฉันไม่ได้ ไม่ทราบเหมือนกันว่าเขาเอาข้อห้ามหรือว่าข้ออนุญาตตรงไหนมา ถึงให้ฉันน้ำมะพร้าวหลังเพลได้ ?

อัจฉริยภาพขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น บางทีหลายพันปีผ่านไป คนยุคใหม่ยังไม่สามารถที่จะตามทัน บรรดา "มหาผล" ต่าง ๆ อย่างเช่นมะพร้าวอ่อนก็ดี แตงโมก็ตาม มีฮอร์โมนเยอะมากเป็นพิเศษ แล้วถึงเวลาพระภิกษุสามเณรของเราฉันเข้าไปก็จะอยู่ยาก ดังนั้น..คนรุ่นใหม่พอไม่สามารถที่จะทำตามสิ่งที่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าสั่งหรือสอน ก็มักจะใช้ "อัตโนมติ" ของตนเองว่าฉันได้ ไม่เป็นไร

ระยะนี้ถ้าหลายท่านเข้าไปในงานวัด โดยเฉพาะในเขตกรุงเทพมหานคร ก็จะเจอว่าเขาถวายน้ำฟักทอง น้ำข้าวโพด น้ำถั่วเขียว บางทีก็มีน้ำมันเทศ ซึ่งก็คือปั่นมาข้นคลั่กเลย..! ถ้าท่านทั้งหลายศึกษาพระวินัยของพระจริง ๆ จะเห็นว่า ถ้าเป็นธัญพืช ก็คือพืชที่เป็นอาหาร ไม่ควรทำเป็นน้ำปานะ แต่เขาก็ฉันกันหน้าตาเฉย กระผม/อาตมภาพรับมาแล้วก็วาง ก็คือต่อให้บ่นไปก็ไร้ประโยชน์ ทำให้เขาเหม็นขี้หน้าเสียเปล่า ๆ..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 17-10-2025 เมื่อ 01:11
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 28 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา