ขนาดกระผม/อาตมภาพด่าไอ้ทิดที่มาบวช เพราะท่องขานนาคไม่ได้ พ่อเขายังตามมาเอาเรื่องถึงสำนักงานเจ้าอาวาส บอกว่า "ลูกผมได้รับความเมตตาจากสมเด็จพระสังฆราชตั้งชื่อให้ ไปด่าลูกผมแบบนั้นได้อย่างไร ?" กระผม/อาตมภาพเองยังนึกอยู่ในใจเลยว่า "ลูกมึงไม่สมควรกับที่สมเด็จพระสังฆราชตั้งชื่อให้ โง่เป็นควายขนาดนั้น บอกให้ไปซ้อมท่องขานนาคก็ยอมไม่ท่อง..!"
แต่ก็เป็นเรื่องที่เราท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า สภาพสังคมมันเปลี่ยนแปลงไปแล้ว ช่วงนั้นเขาก็ยังมีการไปปลุกระดมมวลชน เพื่อที่จะมาขับไล่เจ้าอาวาสวัดท่าขนุน แต่ขอโทษ..ไปโวยผิดคน ไปขอให้ท่านกำนันไพรัช (นายไพรัช ถนอมวงษ์) ช่วยเป็นผู้นำให้ เกือบจะโดนกำนันถีบกลิ้งไปแล้ว..! เพราะกำนันท่านบอกว่า "มึงจำไม่ได้แล้วใช่ไหมว่า สมัยหลวงปู่สายดุกว่านี้อีก..!" กระผม/อาตมภาพได้ยินแล้วก็ยังขำอยู่เหมือนกัน
ท่านทั้งหลายต้องเข้าใจว่า ในสภาพที่เศรษฐกิจเป็นแบบนี้ ถ้าเรารู้ตัวว่ากลับไปแล้วช่วยอะไรทางบ้านไม่ได้ หรือว่าท่านที่ยังไม่ได้บวช อยู่แล้วเป็นภาระกับทางบ้าน ฉวยโอกาสบวชมาสร้างบุญสร้างกุศลดีกว่า อย่างน้อยชื่อเสียงเกียรติคุณที่หลวงปู่สาย วัดท่าขนุน ท่านสร้างเอาไว้ เราไปบิณฑบาตก็ยังมีข้าวปลาอาหารที่อุดมสมบูรณ์ ไม่ต้องอยู่เป็นภาระให้ทางบ้านเขาด้วย
แต่เรื่องพวกนี้ก็แล้วแต่เวรแต่กรรมของแต่ละคน เพราะว่าคนเรามักจะกลัวความลำบาก โดยที่ไม่เคยนึกถึงคำว่า "ลำบากก่อนแล้วสบายเมื่อปลายมือ" ดังนั้น..ถ้าไปชวนให้บวช บางคนรู้สึกเหมือนกับว่าชวนไปตายจะง่ายกว่า..! ก็แล้วแต่ว่าแต่ละคนจะคิดอย่างไร กระผม/อาตมภาพก็ได้แต่เตือนเอาไว้เท่านั้น
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๑๕ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 16-10-2025 เมื่อ 01:09
|