แม้กระทั่งหลวงพ่อองค์อธิการบดียังบอกว่า "ท่านอาจารย์พระครูจัดเป็นบุคคล ๑ ใน ๑๐๐" ก็คือประมาณว่าสัก ๑๐๐ คนจะมีสักคนหนึ่งที่ทุ่มเทตนเองให้กับงานต่าง ๆ ได้ขนาดนี้ กระผม/อาตมภาพได้เรียนถวายท่านกลับไปว่า "ผมใช้วิธีเดียวกับหลวงพ่อครับ ก็คืออยู่กับกรรมฐาน"
กรรมฐานก็คือการที่เราปฏิบัติสมาธิภาวนาบ้าง พิจารณาวิปัสสนาบ้าง สิ่งทั้งหลายเหล่านี้จะสร้างความเข้มแข็งให้เกิดขึ้นในจิตในใจของเรา โดยเฉพาะจะช่วยเสริมบารมีของเราให้เข้มข้นยิ่ง ๆ ขึ้นไป โดยเฉพาะสัจจบารมี คือความจริงจังจริงใจในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็นเรื่องทางโลก หรือว่าเรื่องทางธรรมก็ตาม และอธิษฐานบารมี คือกำลังใจที่ปักมั่นต่อเป้าหมายของเรา ถ้าหากว่าไม่ถึงเป้าหมาย จะไม่เลิกง่าย ๆ
ตรงส่วนนี้ ถ้าทุกท่านที่เข้าร่วมรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมมาตั้งแต่ต้น พวกเราใช้เวลากับรายการนี้มาแล้ว ๒๑๗ อาทิตย์ด้วยกัน กระผม/อาตมภาพมีส่วนเข้าร่วมด้วย ๑๙๕ ครั้ง ครั้งนี้เป็นครั้งที่ ๑๙๖ ก็แปลว่าขาดแค่ไม่กี่ครั้งเท่านั้น นี่คือส่วนหนึ่งของการปฏิบัติธรรม ที่พวกเราทำไปแล้วกำลังใจของเราจะดีขึ้น เข้มแข็งขึ้น บารมีของเราจะเข้มข้นขึ้น ทำให้รักในการปฏิบัติธรรมมากขึ้น สัจจบารมีคือความจริงจัง จริงใจกับงานต่าง ๆ อธิษฐานบารมีคือความมุ่งมั่นต่อเป้าหมาย และวิริยบารมีคือความพากเพียรที่จะทำให้สำเร็จ ก็จะมีพร้อมตรงนี้
ไม่ว่าจะเป็นพระเถรานุเถระ น้องสามเณร หรือว่าคุณแม่ชี และญาติโยมทั้งหลาย ที่เข้าร่วมรายการเสียงธรรมจากมหาจุฬาอาศรมนี้ก็ตาม ขอให้ทุกท่านพิจารณาตนเองเลยว่า ในส่วนที่เราปฏิบัติธรรมมานั้นจะมีผลหรือไม่ ? ไม่ต้องดูคนอื่นคนไกลที่ไหน ไม่ต้องให้ใครมาทำนายให้กับเรา แต่ว่าสิ่งที่เราทำอยู่ทุกวันนี้แหละ เป็นเครื่องวัดตัวตนของเราที่ดีที่สุด ถ้าหากว่าท่านทั้งหลายทำแล้วมีความก้าวหน้า ก็วัดจากสิ่งที่กระผม/อาตมภาพพูดไปเมื่อครู่นี้ก็จะรู้เอง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 18:46
|