แต่ด้วยความที่กระผม/อาตมภาพนั้นไม่ทราบว่าไปติดหวัดจากผู้ใด แล้วก็เจ้ากรรมเถอะ..วันนี้ไมโครโฟนทุกตัวดังหมด ยกเว้นตัวที่กระผม/อาตมภาพใช้งานอยู่ ดังนั้น..ในช่วงให้ศีล จึงต้องตะเบ็งเสียงให้ดัง เพื่อที่จะได้ยินทั่วถึงกันทั้งหอประชุม ปรากฏว่าให้ศีลยังไม่ทันจะจบดี ซุ่มเสียงก็หายหมดแล้ว ครั้นจะมอบหมายให้พระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. เจ้าอาวาสวัดวังปะโท่ ท่านดำเนินการแทน ท่านเองก็ไม่ถนัดในงานพิธีหลวงแบบนี้ จึงต้องฝืนใจขึ้นบทสวดด้วยเสียงแหบ ๆ ทำเอาคนอื่นตามกันแทบจะไม่ไหว..!
ครั้นเห็นว่าไปไม่รอดจริง ๆ กระซิบบอกพระครูสุตกาญจนวัฒน์, ดร. ท่าน ก็ยังไปพลาดในช่วงสุดท้ายอีก ก็คือการยถา ฯ สัพพี ฯ โดยปกติแล้วงานหลวงหรืองานของส่วนราชการ ก็ต้องมีการสวดสัพพีฯ ๓ จบ แต่ท่านพระครู ดร.ตัดเหลือจบเดียว ไม่สามารถที่จะห้ามทันหรือเปลี่ยนแปลงได้ เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า ขึ้นอยู่กับประสบการณ์ของแต่ละรูปแต่ละท่าน
ดังที่กระผม/อาตมภาพเคยเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา ตลอดจนกระทั่งเล่าให้ญาติโยมทั้งหลายฟังว่า ในช่วงที่เป็นพระใหม่ ๒ พรรษาแรก กระผม/อาตมภาพออกงานทุกงานที่ขวางหน้า ก็คือนอกจากไปตามคิวกิจนิมนต์ของตนเองแล้ว ยังต้องไปแทนพระพี่พระน้องอีกเป็นจำนวนมาก
เนื่องเพราะว่ากระผม/อาตมภาพนั้นไปเป็นนาคอยู่ที่วัดท่าซุง ๓๗ วัน นอกจากการถวายการรับใช้พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ในแต่ละช่วงของการลงรับแขกแล้ว เวลาที่เหลือก็คือซ้อมท่องขานนาคและพิธีกรรมต่าง ๆ ในการอุปสมบท แต่ด้วยความที่เป็นคนความจำดี ใช้เวลา ๒ วันก็มีความคล่องตัวทุกอย่าง เวลาที่เหลือจึงใช้ในการท่องบทสวด ๗ ตำนาน ๑๒ ตำนาน ว่ากันจนได้ครบถ้วนสมบูรณ์ ดังนั้น..เมื่อบวชเสร็จก็สามารถที่จะออกงานได้เลย เพียงแต่ว่าต้องมีรุ่นพี่แนะนำว่าแต่ละงานใช้บทอะไรบ้าง
ขนาดนั้นก็ยังมีการทิ่มผิด เนื่องเพราะว่าในตอนฉันเพลของวันหนึ่ง กระผม/อาตมภาพถึงคิวที่จะต้องให้พรญาติโยม ก็ปรากฏว่าส่วนใหญ่ได้ยินรุ่นพี่ท่านขึ้นบท สัพพะโรคะ วินิมุตโตฯ ไปเลย กระผม/อาตมภาพก็ขึ้นไปด้วยความมั่นใจ ผลปรากฏว่าหลวงพ่อเจ้าคุณอนันต์ (พระราชภาวนาโกศล วิ.) ซึ่งในตอนนั้นยังเป็นพระอนันต์ พทฺธญาโณ ยังไม่ได้เป็นแม้แต่พระฐานานุกรมของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านบอกว่า "วันนี้มีเจ้าภาพถวายภัตตาหารให้กับญาติผู้ล่วงลับไปแล้ว ถ้างานลักษณะอย่างนี้ เมื่อยถาฯ สัพพีฯ แล้ว ต้องขึ้นบท อะยัญจะ โขฯ ด้วย"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:13
|