วันนี้เล่าเรื่องความรู้รอบตัวให้ฟัง โบราณบอกว่า "ของกินถ้าไม่กินก็เน่า เรื่องเล่าถ้าไม่เล่าก็ลืม" อย่างที่พระภิกษุสามเณรของเราหลายต่อหลายรูป ที่กระผม/อาตมภาพชี้ให้ดูว่า ถ้าลักษณะอากาศแบบนี้ ต่อไปจะเป็นอย่างไร วันนี้แดดจัดจ้าตั้งแต่เช้า ตอนบ่ายฝนตกแน่นอน เหล่านี้เป็นต้น นั่นก็คือภูมิปัญญาโบราณที่ตกผลึก ส่งต่อกันมารุ่นแล้วรุ่นเล่า ปัจจุบันนี้เขาพึ่งกรมอุตุนิยมวิทยา สมัยก่อนเขาพึ่งพาธรรมชาติ
ถ้ามดขนไข่ขึ้นที่สูงก็ให้รู้ว่าฝนจะตก ถ้าขนขึ้นสูงมากเป็นพิเศษ เตรียมตัวได้ น้ำหลากมาแน่นอน..!
ถ้าหากว่าปีไหนหน่อไผ่ขึ้นสูงกว่าต้นแม่ ปีนั้นน้ำจะมาก เราจะสังเกตว่าหน่อไม้จะพุ่งทะยานขึ้นไปสูงลิบ แล้วก็ยังไม่แตกยอดอ่อน จนกระทั่งเลยต้นแม่ไปแล้ว ถึงไปแตกก้านแตกใบอยู่ด้านบน ก็แปลว่าปีนั้นจะน้ำมาก แล้วหลักการง่าย ๆ ก็คือปีไหนน้ำมาก ปีนั้นหนาวนาน จำไปก็คงไม่มีประโยชน์ เพราะว่าสมัยนี้อากาศเพี้ยนหมดแล้ว
ที่น่าสงสารที่สุดก็ต้นสาละลังกาวัดท่าขนุน ไวต่ออากาศมาก ถึงเวลากระทบหนาวนิดหนึ่งก็สลัดใบทิ้ง ปรากฏว่าอีกสองวันฝนตก แตกใบอ่อนใหม่ แตกใบอ่อนได้สักสองอาทิตย์ ใบเริ่มตั้งตัว เขาเรียกว่าเพสลาด (เพ-สะ-หลาด) ไม่เคยได้ยินอีก ? ใบครึ่งอ่อนครึ่งแก่ อากาศเย็นมาอีกทิ้งใบอีกแล้ว จากสมัยก่อนที่ต้นไม้ทิ้งใบครั้งเดียว ปัจจุบันนี้ต้นไม้ทำใจไม่ถูก ทิ้งใบแล้วทิ้งใบอีก เพราะว่าอากาศวิปริตผิดเพี้ยนมาก
ดังนั้น..พวกเราไม่ว่าจะเป็นนักปฏิบัติธรรม หรือไม่ใช่นักปฏิบัติธรรมก็ตาม ต้องพยายามสร้างความมั่นคงในอารมณ์ของเราเอาไว้ให้มากที่สุด เพื่อจะได้รับมือกับสภาพอากาศแบบนี้ได้ ถ้าหากว่าสติไม่ดี เพราะขาดสมาธิช่วยเหลือ ถึงเวลาเราอาจจะออกอาการบ้า ๆ บอ ๆ ไปตามสภาพอากาศ อยู่ในลักษณะ "ฝนตกก็แช่ง ฝนแล้งก็ด่า มนุษย์ขี้เหม็น เคี่ยวเข็ญเทวดา"
แต่ถ้าหากว่าอารมณ์ใจของเรามั่นคง สมาธิทรงตัว ถ้าทรงสมาธิได้จริง ๆ นี่ ตากแดดก็ไม่ร้อน ตากฝนก็ไม่หนาวนะ เฉย ๆ มีความสุขอยู่ข้างใน ลืมโลกไปเลย..! ถ้าหากว่าสมาธิทรงตัว กำลังใจมั่นคง การเปลี่ยนแปลงของอากาศก็กระทบเราได้น้อย แต่ความเจ็บไข้ได้ป่วยด้วยโรคภัยไข้เจ็บก็ยังคงมีเป็นปกติ
ช่วงนี้จะเป็นช่วงที่บรรดาโรคหวัดสารพัดประเภท แม้กระทั่งโควิดจะระบาด จึงต้องระมัดระวังให้ดี ไม่เช่นนั้นเสียงก็จะหายเหมือนกระผม/อาตมภาพนี่เอง
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอาทิตย์ที่ ๑๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:41
|