ดูแบบคำตอบเดียว
  #5  
เก่า 11-10-2025, 00:27
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,258
ได้ให้อนุโมทนา: 160,505
ได้รับอนุโมทนา 4,511,360 ครั้ง ใน 36,874 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

มาติกาข้อต่อไปก็คือ"สิ้นหวังที่จะได้ผ้าตามเวลาที่กำหนดไว้" ก็คือ ๒๙ วันนี้หาผ้ามาทำจีวรไม่ทันแน่ ในเมื่อไม่สามารถที่จะหาผ้ามาได้ ไม่สามารถที่จะซ่อมแซมผ้าให้คืนดีตามเดิมได้ ก็เท่ากับว่าผ้านั้นเสียหายไป ไม่สามารถที่จะครองเป็นผ้ากฐิน ก็ถือว่าเดาะไปโดยปริยาย..+

มาติกาข้อต่อไปก็คือ
"เพราะว่าพ้นเขตเวลาไปแล้ว" ก็คือเกินขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๔ พอย่างเข้าแรม ๑ ค่ำ เดือน ๔ ก็เป็นอันว่าจบ กฐินเดาะไปโดยปริยาย

ข้อสุดท้ายของมาติกา ลืมไปแล้วใช่ไหมว่ากระผม/อาตมภาพพูดเรื่องอะไร ? ต้องทุบให้ดิ้น..! ก็คือ
"ทั้งหมดพร้อมใจกันเดาะกฐินไปเลย" เมื่ออนุโมทนาเสร็จสรรพ ทุกคนพร้อมใจกันประกาศว่าไม่มีใครใช้อานิสงส์กฐิน

กระผม/อาตมภาพเองเป็นคนที่เดาะกฐินเฉพาะตัวมาแต่ไหนแต่ไรแล้ว เนื่องเพราะว่า "เที่ยวไปโดยไม่ต้องบอกลา" ก็ถือว่าเสียมารยาท "ฉันคณโภชนาหรือปรัมปรโภชนา" ก็อยู่ในลักษณะของคนมักมาก "ไปไหนเอาจีวรไปไม่ครบสำรับได้" ถึงเอาไปครบก็ไม่ได้หนักเกินไป "ผ้าที่เกิดขึ้นทั้งหมดเป็นของเธอ" ปกติก็โยนเข้ากองกลาง ไม่เอาไว้อยู่แล้ว ในเมื่ออยู่ในลักษณะอย่างนี้ ถึงได้อานิสงส์มาก็ไม่ได้ใช้งาน

ดังนั้น..ในมาติกาคือหัวข้อที่กำหนด หรือแม่บทของการเกี่ยวข้องกับกฐิน ก็คือ ข้อกำหนดที่ว่ากฐินนั้นจะเดาะหรือไม่เดาะด้วยเหตุประการใดบ้าง คนครองกฐินต้องรู้ ถ้าไม่รู้ครุธรรมเหล่านี้ก็ถือว่าครองกฐินไม่ได้ เพราะฉะนั้น..รีบกลับไปอ่านใหม่ เรียนมานาน..ลืมไปหมดแล้ว..!
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-10-2025 เมื่อ 01:47
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 20 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา