วันนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ ๑๐ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ กระผม/อาตมภาพเพิ่งจะนำปัจจัยที่ได้รับจากงานกฐินและตักบาตรเทโว ไปเข้าธนาคารเรียบร้อย และเบิกออกมาถวายให้กับทางวัดพุทธมณฑลอรัญญิกาวาส เพื่อเป็นเจ้าภาพกฐิน ๑๐๐,๐๐๐ บาท ซึ่งโดยหลักปฏิบัติแต่ไหนแต่ไรมาก็คือ ยอดเงินกฐินหลังจากหักค่าใช้จ่ายที่ทางคณะสงฆ์อนุญาตแล้ว ให้ฝากเข้าธนาคารทั้งก้อนไปก่อน จากนั้นต้องใช้อะไรจึงค่อยเบิกออกมาอีกครั้งหนึ่ง ต้องบอกว่าเป็นการกระทำที่รอบคอบมาตั้งแต่ต้น แต่ด้วยความที่ว่าพอนานไป ก็มีการปล่อยปละละเลย แล้วก็ทำให้เกิดเหตุในลักษณะที่ว่าเงินสงฆ์และเงินส่วนตัวปะปนกันไปหมด
ในส่วนของกระผม/อาตมภาพนั้น เงินส่วนตัวที่ไปปนกับเงินสงฆ์ ก็เพราะว่าเงินสงฆ์นั้น ถ้าหากว่าทำกันอย่างถูกต้องจริง ๆ จะใช้จ่ายในรายการไหน ต้องมีการประชุมคณะกรรมการวัด ขออนุมัติแล้วถึงจะเบิกจ่ายได้ โดยการเบิกจ่ายต่ำสุดก็ต้องลงชื่อในการเบิก ๒ ใน ๓ เป็นอย่างน้อย บางวัดถึงขนาดต้องลงชื่อ ๕ คนพร้อมกันก็มี..!
แต่คราวนี้ด้วยความที่ว่าวัดท่าขนุนของเรานั้นมีกิจการงานมากเป็นพิเศษ ถ้ามัวแต่ประชุมคณะกรรมการวัดอยู่ ก็ไม่ต้องทำมาหากินอะไรกันพอดี ทางกรรมการและไวยาวัจกรจึงมอบอำนาจให้เจ้าอาวาส สามารถใช้เงินไปได้ก่อน แล้วค่อยมาเคลียร์บัญชีกันทีหลัง
แต่คราวนี้ด้วยความที่ว่าตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคม ๒๕๖๘ เป็นต้นไป เราจะมีการส่งบัญชีฉบับเต็ม ก็คือรับจากรายการอะไรบ้าง ? และจ่ายไปในรายการอะไรบ้าง ? ต้องลงให้ครบถ้วน ตามแบบที่ทางสำนักงานพระพุทธศาสนาแห่งชาติกำหนดเอาไว้ ในลักษณะของการทำบัญชีวัด แต่กระผม/อาตมภาพเองก็คงไม่จ่ายรายหนึ่งแล้วก็วิ่งไปเบิกทีหนึ่ง เพราะว่าจะยุ่งยากมากความ ก็คงจะควักเงินส่วนตัวจ่ายไปก่อน แล้วพอสิ้นเดือนค่อยไปดูว่าจ่ายไปกี่รายการและเท่าไรบ้าง ค่อยไปทำการโอนจากบัญชีวัดเข้ามาในบัญชีของตัวเอง ซึ่งถ้าหากว่าผิดพลาด ชี้แจงไม่ได้ ก็ติดคุกหัวโต เพราะกลายเป็นยักยอกเงินวัด เนื่องเพราะโอนจากวัดมาใส่บัญชีตัวเอง..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 11-10-2025 เมื่อ 01:27
|