เมื่อเทศน์โปรดพระพุทธมารดาแล้ว เสด็จกลับลงมา ชาวบ้านก็ถวายการต้อนรับ ทำบุญใส่บาตร จนกลายเป็นธรรมเนียมที่พวกเรานำมาใช้อยู่ในปัจจุบัน ที่เรียกกันว่างานตักบาตรเทโว
โดยเฉพาะของทางวัดท่าขนุนเรา ทางการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย จังหวัดกาญจนบุรี บรรจุลงเป็นหนึ่งใน Unseen Thailand เพราะว่าผู้คนแทบทั้งอำเภอมาร่วมใส่บาตรกัน
จากการที่กระผม/อาตมภาพเข้ากรรมฐานมา ๓ วัน งานนี้ต้องบอกว่าเซ็งมาก..! เพราะว่าปกติแล้วต้องมีคนมาคอยแหย่เสือ "ลองของ" อยู่เสมอ แต่งานนี้เงียบสนิท ไม่มีอะไรให้เล่นเลย..! อาจจะเป็นเพราะว่า เพิ่งจะมีงานเป่ายันต์เกราะเพชรไปเมื่อไม่กี่วันที่ผ่านมา
อีกส่วนหนึ่งก็คือ การเข้ากรรมฐาน ๓ วัน น้ำหนักลดไป ๓ กิโลกรัมกว่า ก็เลยทำให้เดินขึ้นเขาได้เร็วกว่าปีที่แล้ว ปีที่แล้วใช้เวลา ๖ นาทีเดินถึงยอดเขา ปีนี้เหลือแค่ ๕ นาที..! อาจจะเป็นเพราะว่าแก่มากขึ้นก็เลยแข็งแรงขึ้น..! ซึ่งกระผม/อาตมภาพได้ตั้งใจเอาไว้แล้วว่า "ถ้าไม่สามารถเดินขึ้นลงบันไดนั้นเมื่อไร ก็จะเกษียณตัวเอง เลิกบิณฑบาตเมื่อนั้น..!" ตอนนี้ก็ได้แต่ลุ้นว่า ยังเหลืออีกกี่ปีที่พอจะขึ้นไหว ?
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๘ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2025 เมื่อ 01:53
|