ความจริงพระพุทธมารดาท่านสามารถบรรลุอรหัตผลได้เลย แต่ติดด้วยสัญญาเดิมว่าจะไปเกิดเป็นพระพุทธมารดาอีกรอบหนึ่ง..! ก็คือเป็นแม่พระพุทธเจ้าองค์เดียวยังไม่สะใจ ขอเกิดไปเป็นแม่พระพุทธเจ้าอีกองค์หนึ่ง..! ซึ่งเรื่องพวกนี้ ถ้าท่านต้องการรายละเอียด ไปดูในมธุรัตถวิลาสินี อรรถกถาพุทธวงศ์ จะมีกล่าวเอาไว้ เพราะว่ากระผม/อาตมภาพเวลาอ่านหนังสือ อ่านอะไรแล้ว มักจะจับจุดผิดพลาดได้เร็วมาก..!
เราจะเห็นว่าองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าประสูติได้ ๗ วัน พระนางสิริมหามายาก็เสด็จสวรรคต แล้วพระองค์ท่านก็โดนเลี้ยงดูมาโดยพระน้านางปชาบดีโคตมี ภายหลังบรรลุอนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ไปเทศน์โปรดพระประยูรญาติแล้ว พระน้านางเธอมีศรัทธาอยากจะบวช อุตส่าห์เดินติดตามไปเป็นระยะทางไกลมาก องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ทรงอนุญาตให้บวช
โดยตรัสว่า "ถ้าผู้หญิงบวชในพระพุทธศาสนา ก็เหมือนปล่อยให้เพลี้ยเข้าไปในไร่อ้อย ต้นอ้อยมีแต่จะโดนทำลายลงในระยะเวลาอันไม่นาน" ซึ่งเรื่องพวกนี้ บางคนบอกว่า "องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้ากีดกันสิทธิสตรี..!" แต่ปัจจุบันนี้เราก็เห็นแล้วว่า แม้ผู้หญิงจะอยู่นอกวัด ก็ยังสร้างความเสียหายกับพระพุทธศาสนาได้มากมายมหาศาล อย่างข่าวใหญ่ในช่วงที่ผ่านมา
แต่พระอานนท์ทูลอ้อนวอนว่า "เห็นแก่พระน้านางที่เลี้ยงดูพระองค์มาตั้งแต่เล็ก ขอทรงอนุญาตให้บวชเถิด" พระพุทธเจ้าจึงตรัส "ครุธรรม ๘ ประการ" ให้ ว่าถ้าทำได้ก็อนุญาตให้บวช อย่างเช่นว่า "ภิกษุณีแม้มีพรรษาถึงร้อย ก็ต้องเคารพภิกษุซึ่งบวชในวันนั้น" เรื่องพวกนี้สำหรับคนทั่วไปแล้วยากเป็นอย่างยิ่ง แต่นางปชาบดีโคตมีท่านได้ยิน เหมือนอย่างกับได้น้ำทิพย์ชะโลมใจ ตอบรับครุธรรม ๘ ประการโดยไม่ลังเล จึงได้บวชเป็นภิกษุณีพร้อมด้วยบริษัทบริวาร
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 09-10-2025 เมื่อ 01:46
|