หรือว่าหลวงปู่ครูบาพรหมจักรสังวร วัดพระบาทตากผ้า ท้ายทางเดินจงกรมของท่านที่เป็นศิลาแลง มีรอยเท้ามนุษย์ประทับอยู่ ลูกศิษย์ถามท่านว่า "รอยเท้าใครครับหลวงปู่ ?" ท่านก็ไปเดินเหยียบให้ดู บอก "เท่ากันพอดีเลยเนาะ" ท่านก็ไม่ได้บอกอะไร นอกจากพูดแค่นั้น
หลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ วัดพระพุทธบาทห้วยต้ม เกรงว่าจะน้อยไป ท่านก็เลยเหยียบเสียสองรอย แต่เป็นที่น่าเสียดายว่าลูกศิษย์ไม่รู้คุณค่า เห็นว่าหลวงปู่เหยียบก้อนหินแล้วเป็นรอยตื้นเกินไป ก็เลยไปช่วยกันแกะสลักเสียจนลึก ทำให้เสียความเป็นธรรมชาติไปหมด..!
อาตมภาพไปพม่าอยู่หลายปี ไปนั่งถกกับพระพม่าว่า "พระพม่ากับพระไทย ใครจะเก่งกว่ากัน ?" พระพม่าฟันธงว่าพระกะเหรี่ยงเก่งกว่า สามารถเหยียบหินให้เป็นรอยได้ กระผม/อาตมภาพก็นั่งเถียงว่าพระไทยก็ทำได้ ท้ายที่สุดเถียงกันแทบตาย ลงท้ายก็คือหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์นั่นเอง เพราะว่าหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์ท่านอยู่กับกะเหรี่ยงที่บ้านก้อ อำเภอลี้ จังหวัดลำพูน ก็เลยทำให้พระพม่าเข้าใจว่าหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์เป็นพระกะเหรี่ยง ส่วนอาตมภาพก็ไปเหมาโหลว่าหลวงปู่ครูบาไชยวงศ์เป็นพระไทย ก็เลยไปนั่งงัดข้อกันอยู่ครึ่งค่อนวัน เป็นอะไรที่ต้องบอกว่าเป็นเรื่องที่ "วิวาทะ" กันได้โดยง่าย
หลวงปู่สี วัดเขาถ้ำบุญนาค ชานหมากของท่านคายออกมาเมื่อไร ก็สามารถที่จะลองได้เลย ก็คือมีปืนก็ยิงไปเถอะ..ไม่ออกหรอก..! แต่มีอยู่วันหนึ่งหลวงปู่ท่านบ่นว่า "มันลองกันเยอะ..จนข้าเจ็บปากไปหมดแล้ว..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย เผือกน้อย : 04-10-2025 เมื่อ 10:24
|