ญาติโยมที่จะทำบุญ ให้อธิษฐานมาจากข้างนอก ไม่ใช่มาจนถึงตรงหน้าแล้ว ค่อยมาล้วงมาควักให้คนอื่นเขาหวาดเสียวกัน แล้วยิ่งมายืนอธิษฐานอยู่ตรงนั้น เสียเวลาคนอื่นเขา กลายเป็นว่าเราขวางทางบุญของคนอื่น ถึงเวลาเกิดอุปสรรคในชีวิตก็ยังงง ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้นวะ ?
การทำบุญต้องถือหลักในจูเฬกสาฎก ที่พระพุทธเจ้าตรัสว่า ตุลิฏะ ตุลิฏัง สีฆะ สีฆัง คือ ทำอะไรให้เร็ว ๆ ไว ๆ จูเฬกสาฎกตัดสินใจทำบุญช้าไป แทนที่จะได้เป็นมหาเศรษฐี หรือว่าเป็นอนุเศรษฐี ก็เป็นได้แค่คหบดี หรือผู้มีฐานะธรรมดา
ถ้าเป็นมหาเศรษฐีจะมีทรัพย์ ๘๐ โกฎิ เป็นอนุเศรษฐีมีทรัพย์ ๔๐ โกฏิ แต่ด้วยความที่ตัดสินใจไม่เด็ดขาด มัวแต่ลังเลอยู่จึงทำให้ช้า ผลบุญลดลง เหลืออยู่แค่เป็นคหบดีหรือนายบ้าน ถ้าเป็นสมัยนี้ก็ประมาณผู้ใหญ่บ้านหรือกำนันเท่านั้น ไปไม่ถึงระดับเจริญ สิริวัฒนภักดี หรือธนินท์ เจียรวนนท์
ดังนั้น..ทำบุญทำให้ง่าย ทำให้ไว เป็นตรรกะง่าย ๆ ว่า ถ้าเราทำอะไรไว ๆ ถึงเวลาก็ได้อะไรไว ๆ เหมือนกัน ไม่มีทางที่จะได้มาม่าไปได้..!
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 04-10-2025 เมื่อ 01:26
|