จึงทำให้ครูบาอาจารย์สายนี้มีมานะ ถือตัวถือตนจนเป็นปกติ สิ่งหนึ่งประการใดที่ไม่สามารถอธิบายให้ชัดเจนได้ก็ใช้วิธีด่าลูกศิษย์ หรือไม่ก็ให้ลูกศิษย์ไปปฏิบัติให้หนักยิ่งขึ้น ประมาณว่านั่งได้ข้ามวันข้ามคืนก็ยิ่งดี โดยที่ลืมหลวงพ่อโชดก - พระเดชพระคุณพระธรรมธีรราชมหามุนี วิ. (โชดก ญาณสิทฺธิ ป.ธ. ๙) อาจารย์ใหญ่ของสายพองยุบได้กล่าวเอาไว้ว่า "ลูกศิษย์ท่านนี้เก่งมาก นั่งสมาธิภาวนาต่อเนื่องได้ ๒๑ ชั่วโมงต่อเนื่องกันโดยไม่ขยับเลย..!"
พอสอบถามว่า "ลูกศิษย์ท่านนั้นตอนนี้เจริญรุ่งเรืองในคณะสงฆ์ไปถึงไหนแล้ว ?" ท่านบอกว่า "สึกไปแล้วครับ" ก็เพราะว่าอยู่ในลักษณะของการกดกิเลสเอาไว้เท่านั้น แต่ไปมั่นอกมั่นใจว่าตนเองเป็นพระอริยเจ้าแล้ว จึงเป็นเรื่องที่น่าเสียดายมาก ที่มาถูกทางแล้ว แต่ไปเอาสายปฏิบัติที่ผิดพลาดมาเสียนี่..!
ท่านทั้งหลายจึงจำเป็นอย่างยิ่งที่ต้องประพฤติวัตรปฏิบัติธรรม และศึกษาตำราควบคู่กันไปด้วย จะได้เข้าใจว่าที่ตำราเขียนไว้นั้น ที่แท้จริงคืออะไร แล้วก็อย่าได้ไปทึกทักว่าธรรมะของพระพุทธเจ้ามีแค่นั้นเป็นอันขาด เพราะว่าเหมือนกับเราเดินขึ้นบันได ด้วยกิเลสในใจของเรา พอขึ้นบันไดไปขั้นหนึ่ง ก็จะคิดว่าหลักธรรมของพระพุทธเจ้ามีแค่นี้เอง แต่พอก้าวสูงขึ้นไปอีกขั้นหนึ่ง ก็..อ้าว..ที่แท้มีมากกว่านี้ แต่ไปยึดมั่นถือมั่นว่าขั้นต่อไปนั้นก็คือแค่นี้อีก จนกว่าจะหมดกิเลสอย่างแท้จริง จึงจะอธิบายสภาวธรรมของพระพุทธเจ้าได้ละเอียดและชัดเจน
ดังนั้น..ในเรื่องของการเรียนและการปฏิบัติธรรม จึงเป็นเรื่องที่ควบคู่กัน ชนิดที่ขาดอย่างใดอย่างหนึ่งไม่ได้ แต่ในขณะเดียวกัน ก็อย่าไปยึดมั่นถือมั่นในสิ่งทั้งปวงเหล่านั้น เพราะว่าสภาวธรรมที่แท้จริง บางทีก็พิลึกพิลั่นจนเราท่านทั้งหลายก็นึกไม่ถึง อย่างที่กระผม/อาตมภาพพบเจอมาด้วยตนเอง อ่านตำรามากี่เล่มไม่เคยบอกอย่างนั้น แต่พอไปอ่านตำราของหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง ท่านอธิบายไว้ชัดเจนว่าบางท่านอาจจะเป็นอย่างนี้
พวกเราจึงต้องระมัดระวังในการศึกษาและปฏิบัติเป็นอย่างสูง ตำราเป็นเพียงแผนที่นำทาง การปฏิบัติที่จะไปให้ถึงจุดหมายปลายทางเป็นเรื่องสำคัญ แต่ก็ไม่ใช่ไปยึดมั่นถือมั่นว่า "กูทำได้ กูเป็นคนดีกว่าคนอื่นเขา" ถ้าอยู่ในลักษณะอย่างนั้น ก็กลายเป็นกิเลสนักปฏิบัติไปอีก
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพฤหัสบดีที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:59
|