วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ เป็นวันสอบนักธรรมชั้นตรี (สนามหลวง) วันที่สอง ในวิชาธรรมวิภาค ปีนี้ทำเอาพระนวกะและน้องสามเณรร้องกันระงม เพราะว่าข้อสอบออกมายาก ชนิดที่คนจบนักธรรมชั้นเอกแล้วก็อาจจะสอบตกได้..! แต่ว่าเนื้อหาสาระในส่วนที่นำมาออกข้อสอบนั้น ถือว่าเป็นสิ่งที่จำเป็นต้องรู้ และจำเป็นต้องปฏิบัติตาม ไม่ว่าจะเป็นส่วนของผู้ที่บวชอยู่ต่อไป หรือผู้ที่สึกหาลาเพศไปก็ตาม
อย่างเช่นที่ถามว่า ถ้าปรารถนาประโยชน์ในปัจจุบันควรจะปฏิบัติในหลักธรรมอะไร ? ซึ่งตรงนี้ส่วนใหญ่แล้วนักเรียนของเราจะได้ยินคำว่าทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ แต่กลายเป็นว่ามาเป็นภาษาไทยล้วน ๆ ก็เลยทำให้ผู้ที่ไม่คุ้นชินทั้งภาษาไทยและภาษาบาลีเกิดความสับสนขึ้นมาได้
คราวนี้ในเบื้องต้นของนักธรรมชั้นตรี เขามักจะเฉลยว่า ประโยชน์ในปัจจุบันก็คือชื่อเสียง เกียรติยศ เงินทอง เหล่านี้เป็นต้น ก็ให้ปฏิบัติตามหลักหัวใจเศรษฐี ซึ่งย่อไว้ว่า อุ อา กา สะ โดยที่มีคนเอาไปภาวนาเป็นพระคาถาขลังมามากแล้ว..!
แต่ความจริง อุนั้นคืออุฏฐานสัมปทา ความขยันหมั่นเพียรในการหาทรัพย์
อารักขสัมปทา รู้จักเก็บงำทรัพย์สินนั้น บางทีก็ต้องใช้รวมกับโภควิภาค ก็คือแบ่งปันทรัพย์สินออกเป็นส่วน ๆ ส่วนไหนพึงใช้ ส่วนไหนพึงเก็บ
กัลยาณมิตตตาคือ คบแต่เพื่อนดี ไม่ชักพาไปในทางเสียหาย
และ สมชีวิตา ดำเนินชีวิตในทางที่ถูกต้อง คืออยู่ในศีลในธรรม เป็นต้น บางคนก็ย่อให้จำง่าย ๆ ว่า "ขยันหา รักษาทรัพย์ คบเพื่อนดี มีชีวิตพอเพียง"
แต่คราวนี้ทิฏฐธัมมิกัตถประโยชน์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้านั้น ไม่ได้มีแค่ที่เฉลยในนักธรรมชั้นตรี เพราะว่าสิ่งที่พระองค์ท่านสอนนั้น หมายเอาทั้งประโยชน์ในปัจจุบัน ประโยชน์ในอนาคต และประโยชน์สูงสุด คือ พระนิพพาน
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : วันนี้ เมื่อ 01:46
|