วันนี้ตรงกับวันพุธที่ ๑ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๖๘ ย่างเข้าสู่เดือนตุลาอาถรรพ์แล้ว กระผม/อาตมภาพสุขภาพชำรุด เนื่องเพราะว่าขณะที่พี่น้องชาวไทยทั้งภาคเหนือและภาคกลาง ส่วนใหญ่เดือดร้อนเพราะน้ำท่วม แต่ว่าทองผาภูมิกลับกลายเป็นฤดูหนาวเอาดื้อ ๆ ฝนฟ้าหายขาดไปตั้งแต่เมื่อคืน อากาศเหมือนกับฤดูหนาว ตอนบิณฑบาตเห็นทะเลหมอกเต็มไปหมดทั้งอำเภอ..!
เมื่อกลับจากบิณฑบาตมา ก็ต้องเร่งทำบัญชีรายรับรายจ่ายประจำปีงบประมาณ ๒๕๖๘ ซึ่งสิ้นสุดลงเมื่อวานนี้ โดยคณะสงฆ์กำหนดว่าให้ส่งภายในไม่เกินวันที่ ๑๐ ตุลาคม ๒๕๖๘ แต่ว่ากระผม/อาตมภาพนั้นมักจะส่งตั้งแต่วันที่ ๑ ตุลาคมทุกครั้ง เนื่องเพราะว่าทยอยทำบัญชีไปทุกวัน แล้วก็มาใส่บรรทัดสุดท้ายของการบริจาคออนไลน์ ซึ่งจะตัดยอดหลังเที่ยงคืน
อาจจะเป็นเพราะว่ารีบร้อนไปหน่อย ก็เลยบวกเลขผิด ๆ พลาด ๆ ไปอยู่ ๓ - ๔ รอบ ต้องใช้ความอดทนและใจเย็น ค่อย ๆ มาเล็งตัวเลข ซึ่งส่วนใหญ่แล้วญาติโยมก็มักจะโอนมามีเศษสตางค์บ้าง เป็นเศษสตางค์ที่ท่านคิดว่าสวยบ้าง อย่างเช่นว่า ๑ สตางค์ (๐.๐๑ บาท) ๙๙ สตางค์ (๐.๙๙ บาท) เหล่านี้เป็นต้น สร้างความลำบากลำบนให้กับคนทำบัญชีอยู่ไม่น้อยเลย..!
เมื่อบัญชีเสร็จแล้วก็ได้โทรเรียกไวยาวัจกรวัดท่าขนุน ก็คือนายสมควร มีราศรี ข้าราชการครูบำนาญ ซึ่งทำหน้าที่ไวยาวัจกรมาตั้งแต่กระผม/อาตมภาพเป็นเจ้าอาวาสวันแรกเลย ครั้นได้ลายเซ็นรับรองและประทับตราวัดแล้ว ก็สแกนเป็นไฟล์ส่งเข้าไปในกลุ่มไลน์ก่อน หนังสือนำและเอกสารตัวจริงจะส่งตามไปทีหลัง การส่งงานเข้าไปก่อน ก็เพื่อกระตุ้นให้วัดอื่นรู้ตัวว่า "ถึงเวลาต้องส่งรายงานบัญชีประจำปีแล้ว"
จากนั้นก็พักผ่อนประมาณ ๑๐ กว่านาที โดยการเข้าสมาธิ เพื่อจะได้เก็บแรงเอาไว้ใช้งาน แล้วแต่งองค์ทรงเครื่องเต็มยศ เดินทางไปยังวัดปรังกาสี หมู่ที่ ๓ ตำบลท่าขนุน ซึ่งอยู่ห่างออกไปประมาณ ๑๕ กิโลเมตร เพื่อไปร่วมพิธีเปิดการสอบนักธรรมชั้นตรี (สนามหลวง) ประจำปี ๒๕๖๘ โดยที่หลังฉันเพลแล้ว ก็ต้องรอให้กองงานเลขานุการคณะสงฆ์อำเภอทองผาภูมิ ทำการโหลดข้อสอบของวันนี้ออกมาบรรจุซองให้เรียบร้อย
กระผม/อาตมภาพเป็นประธานนำทุกรูปบูชาพระรัตนตรัย อ่านสาส์นจากแม่กองธรรมสนามหลวง ให้โอวาททั้งพระนวกะและน้องสามเณรผู้เข้าสอบนักธรรมชั้นตรีทั้ง ๙๔ รูป แล้วมาเซ็นเปิดข้อสอบ และอ่านข้อสอบให้ทุกคนฟัง
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : เมื่อวานนี้ เมื่อ 02:19
|