คราวนี้เราท่านทั้งหลายที่เป็นพุทธศาสนิกชน สิ่งหนึ่งที่ช่วยได้ก็คือการเร่งการภาวนาให้กำลังใจของเราทรงตัวมั่นคง เหมือนอย่างกับหยดน้ำเล็ก ๆ ในสถานการณ์ที่ไฟล้อมมาทุกทิศ หยดเดียวอาจจะไม่เห็นผล แต่ถ้าหลาย ๆ หยดรวมกันก็อาจจะดับร้อนผ่อนเย็นให้ได้ในจุดใดจุดหนึ่ง
ซึ่งตรงนี้บรรดาผู้ที่ได้อภิญญาสมาบัติ ทั้งฝ่ายพระภิกษุ แม่ชี ฆราวาส แต่ละท่านล้วนแล้วแต่ได้รับคำสั่งว่าต้องทำอะไรทั้งสิ้น ส่วนใหญ่ก็คือปกป้องคุ้มครองผู้ที่สร้างบุญสร้างกรรมร่วมกันมา อย่างแย่ที่สุดก็อย่าให้เสียชีวิต สูญเสียทรัพย์สินไม่เป็นไร ถ้าคนยังรอดอยู่ ท้ายสุดก็ต้องพลิกฟื้นคืนมาได้
ยกเว้นบรรดาท่านทั้งหลายซึ่งจะมีอุปฆาตกรรม ก็คือกรรมปาณาติบาตที่เคยฆ่าคน ฆ่าสัตว์ใหญ่ เข้ามาสนองในช่วงนี้พอดี ความจริงก็สามารถแก้ไขได้ ก็คือปล่อยชีวิตสัตว์ที่เขาจะโดนฆ่า อย่างเช่นว่าปลาหน้าเขียง หรือบรรดาสัตว์ที่โดนขายอยู่ในตลาดสด ซึ่งต้องตายแน่นอนอยู่แล้ว อย่างน้อยก็จะได้ผ่อนหนักเป็นเบาให้กับตนเอง
แล้วส่วนที่เหลือก็พยายามสร้างบุญในศีล สมาธิ ปัญญา ซึ่งจะเป็นตัวหนีกรรมที่ดีที่สุด เพราะว่าเคราะห์กรรมทั้งหลายก็คือ การที่เราผิดศีลพลาดศีลในอดีตนั่นเอง กรรมทั้งหลายเหล่านี้ก็คอยตามเราอยู่ เหมือนหมาดุพร้อมที่จะกัดทันทีที่มีโอกาส ถ้าเราสร้างบุญสร้างกุศลให้มากขึ้น ก็เหมือนอย่างกับเราหนีห่างหมาดุนั้นออกไป ถึงแม้ว่าไม่สามารถจะสลัดทิ้งไปได้ แต่อย่างน้อย ๆ ก็ปลอดภัยได้ชั่วคราว
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๓๐ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 01-10-2025 เมื่อ 01:25
|