เราท่านทั้งหลายจะเห็นว่า เรื่องแบบนี้ถ้าหากว่าตรงไปตรงมาแล้ว พระเราไม่ได้มีความผิดเพราะว่าไม่ได้เริ่มต้นก่อน แล้วขณะเดียวกัน ในเมื่อเงินมอบให้กับพระท่านไปใช้จ่ายแล้ว ยังจะตามไปควบคุมท่านอีก โดยที่ตัวต้นเหตุนั้นก็คือหน่วยราชการที่เขาตั้งขึ้นมา เพื่ออำนวยความสะดวกให้กับพระภิกษุสงฆ์ของเรา โดยเฉพาะการถวายคำแนะนำในด้านต่าง ๆ แต่กลับเป็นคนโกงเสียเอง แล้วก็ไป "โยนขี้" ให้พระ..!
จนกระทั่งปัจจุบันนี้ หลวงพ่อพระพรหมดิลก กับ หลวงพ่อพระพรหมสิทธิ ได้รับการคืนสมณศักดิ์ และกลับเข้าตำแหน่ง แม้ว่าจะไม่ครบถ้วนเหมือนเดิมก็ตาม เพราะศาลตัดสินแล้วว่าท่านไม่มีความผิดแม้แต่นิดเดียว..!
แล้วถ้าหากว่าท่านเกิดสึกหาลาเพศไปเสียก่อน ตามกฎหมายบ้า ๆ บอ ๆ ที่ออกมา แล้วคัดค้านกับพระธรรมวินัย ก็คือถ้าหากว่าพระต้องคดี ถึงขนาดต้องเข้าคุกเข้าตาราง ต้องให้สึกหาลาเพศเสียก่อน ทั้ง ๆ ที่ยังไม่ได้พิสูจน์ความบริสุทธิ์ของตนเอง กระผม/อาตมภาพยังสงสัยว่า มหาเถรสมาคมปล่อยให้กฎเกณฑ์แบบนี้ ซึ่งคัดค้านพระธรรมวินัยออกมาได้อย่างไร ?
แม้กระทั่งปัจจุบันนี้ การต้องอาบัติสังฆาทิเสส ซึ่งเป็นอาบัติที่แก้ไขได้โดยวุฏฐานวิธี ก็กลายเป็นว่าอย่างต่ำสุดก็ต้องโดนปรับโทษ ถอดออกจากสมณศักดิ์และตำแหน่งทั้งปวง ต่อไปท่านทั้งหลายอาจจะไม่มีที่ให้เข้าปริวาสก็เป็นได้ เนื่องเพราะว่าปริวาส ก็คือวุฏฐานวิธีในการออกจากอาบัติสังฆาทิเสส ก็คือถ้าตำรวจบุกเข้าไป เจอพระ ๓๐๐ รูป ๔๐๐ รูป สามารถที่จะจับมาจี้ตัวทีละรูป ว่าใครมีตำแหน่ง ? ใครมีสมณศักดิ์บ้าง ? แล้วก็ส่งเรื่องให้ถอดตำแหน่ง ถอดสมณศักดิ์ได้เลย เพราะว่าถ้าท่านไม่โดนอาบัติสังฆาทิเสส แล้วท่านจะไปเข้าปริวาสทำไม ?
เพื่อนฝูงของกระผม/อาตมภาพบางรูป อย่างท่านเจ้าคุณดำเนิน - พระปริยัติวโรปการ (ดำเนิน จิตฺตโสภโณ ป.ธ. ๖) เจ้าอาวาสวัดนาคกลาง วรวิหาร ท่านชอบไปเข้าปริวาส เพราะเชื่อกันว่าอยู่ในลักษณะการฟอกตัวเองบ่อย ๆ ให้สะอาดบริสุทธิ์ แต่ว่าเรื่องนี้กระผม/อาตมภาพไม่เคยทำ เพราะว่าตอนที่อยู่กับหลวงพ่อฤๅษีฯ วัดท่าซุง มีพระขอลาไปปริวาส หลวงพ่อฤๅษีฯ ท่านถามว่า "แกโดนอาบัติสังฆาทิเสสเมื่อไร ?" เล่นเอาใบ้รับประทาน..! แล้วท่านก็บอกว่า "ถ้าไม่โดนอาบัติสังฆาทิเสส แต่เราไปแจ้งว่าโดนอาบัติสังฆาทิเสสข้อนั้น โดนอาบัติอาบัติสังฆาทิเสสข้อนี้ทุกวัน โดยเฉพาะในการเก็บมานัตต์ ตัดรัตติเฉทต่าง ๆ ก็เท่ากับว่าเราโกหกเขา โดนอาบัติเพิ่มเข้าไปอีก..!"
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 29-09-2025 เมื่อ 01:21
|