การรักษายันต์ให้อยู่กับเรา อย่างน้อยต้องรักษาศีลได้ ๒ ข้อ ก็คือ ไม่ลักขโมย และไม่ดื่มสุราเมรัย จัดว่าเป็นสีลานุสติ
การอาราธนาหรือว่าปลุกยันต์เกราะเพชรทุกวัน เท่ากับบังคับให้เราภาวนา นั่นก็คือในส่วนของสมาธิภาวนาที่เราจะพึงได้ในหลักไตรสิกขา
ก็แปลว่าโบราณท่านแฝงกรรมฐานกองใหญ่ ตลอดจนกระทั่งแนววิธีปฏิบัติ ในการรักษาศีล เจริญสมาธิภาวนาเบื้องต้น เอาไว้ครบถ้วนแล้ว เหลือแต่ท่านทั้งหลายไปใช้ปัญญาต่อท้าย ให้ประสบผลสำเร็จในมรรคในผลกันเอาเอง
แต่คนรุ่นใหม่ที่คิดไม่ถึง มองไม่เห็น มักจะแสดงความโง่ออกมาด้วยการกล่าวตำหนิว่า "พิธีกรรมแบบนี้เป็นแหล่งรวมคนโง่" ทั้ง ๆ ที่คนพูดเองนั่นแหละโง่ที่สุด..! เพราะว่ามองไม่เห็นในสิ่งที่โบราณเขาแฝงเอาไว้ในพิธีกรรมพิธีการต่าง ๆ
โดยเฉพาะมองไม่เห็นความเป็นจริงว่าพระพุทธศาสนาของเรานั้น ถ้าจะเปรียบไปแล้วก็มีลักษณะเหมือนกับปีรามิด ก็คือฐานกว้างที่สุด แล้วค่อย ๆ แคบเข้าจนไปถึงยอดที่เหลือนิดเดียว ซึ่งบรรดาฐานของปีรามิดนั้น ก็คือบุคคลที่ยังติดอยู่กับพิธีกรรมพิธีการต่าง ๆ ต้องอาศัยเครื่องโยงใจให้ต้องการจะประพฤติปฏิบัติธรรม ถ้าไม่มีเครื่องโยงใจที่เหมือนกับเอาน้ำตาลเคลือบยาขมไว้ ก็ไม่มีใครสนใจที่จะกินยาขมนั้นเพื่อรักษาโรค
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 28-09-2025 เมื่อ 01:39
|