วันนี้ตรงกับวันพฤหัสบดีที่ ๒๕ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘ ก่อนอื่นขอเจริญพรขอบคุณคณะญาติโยมลูกศิษย์หลวงปู่แก่น วัดเขื่อนท่าทุ่งนา ที่มาเปิดโรงทานในงานบวงสรวงไหว้ครูประจำปี และเป่ายันต์เกราะเพชร ทั้งที่เขาเปิดถึง ๓๐ กว่าโรงทาน ทำไมกล่าวถึงแต่โรงทานลูกศิษย์หลวงปู่แก่น ? ก็เพราะว่าท่านมาเปิดตั้งแต่วันนี้เลย ญาติโยมท่านใดที่ยังกินอาหารเย็นอยู่ สามารถเข้าโรงทานได้ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป
ถ้าถามว่าหลวงปู่แก่นคือใคร ? ก็คือหลวงปู่พระครูสุนทรกาญจนคุณ (พล ปญฺญาคโม ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าอาวาสวัดเขื่อนท่าทุ่งนาประชาสรรค์ ความจริงท่านชื่อ "พล" แต่ด้วยความที่ว่าในอดีตชาตินั้นเคยเป็นเพื่อนคู่หู บวชมากับ "เณรแก้ว" ซึ่งก็คือขุนแผนแสนสะท้าน อดีตเจ้าเมืองกาญจนบุรีนั่นเอง ในเมื่อ "เณรแก่น" เป็นเพื่อนกับ "เณรแก้ว" มาด้วยกัน บรรดาผู้ที่พอจะทราบเรื่องอดีตชาติของท่าน ก็เลยพากันเรียกท่านว่า "หลวงปู่แก่น" จนคนลืมชื่อจริงไปแล้ว
ในสมัยที่กระผม/อาตมภาพยังอยู่วัดท่าซุง หลวงปู่แก่นท่านจะไปกับหลวงพ่อเจ้าคุณณรงค์ - พระเดชพระคุณพระเทพเมธากร (ณรงค์ ปริสุทฺโธ ป.ธ. ๔) อดีตเจ้าคณะจังหวัดกาญจนบุรี อดีตเจ้าอาวาสวัดราษฎร์ประชุมชนาราม (วัดท่ามะขาม) ทุกครั้ง และเป็นพระเพียงสองรูปที่ได้รับอนุญาตพิเศษจากหลวงพ่อวัดท่าซุงว่า "ทุกงานให้มาได้โดยไม่ต้องมีฎีกานิมนต์นะครับ" แล้วกระผม/อาตมภาพก็เป็นผู้ที่ต้อนรับพระอาคันตุกะ จัดที่พักถวายท่าน จึงสนิทสนมกับตั้งแต่บัดโน้นเป็นต้นมา
หลวงปู่แก่นท่านศึกษาวิชามาจากหลายครูบาอาจารย์ โดยเฉพาะ "สายเหนียว" จากจังหวัดราชบุรี เพชรบุรี เหล่านี้เป็นต้น แต่ว่าท่านมีโอกาสศึกษาวิชาการจากหลวงปู่ปาน วัดบางนมโคด้วย ทั้งที่อายุกาลพรรษาของท่าน อย่างไรก็ไม่ทันหลวงปู่ปาน แต่จากที่ท่านเล่าให้ฟังก็คือ ได้อ่านประวัติหลวงปู่ปาน แล้วเกิดความเลื่อมใสมาก จึงเดินทางไปวัดบางนมโค ตั้งใจฝากตัวเป็นศิษย์ แล้วก็เจอหลวงปู่ปาน แบบที่ภาษาวัยรุ่นเรียกว่า "ตัวเป็น ๆ" ต้อนรับขับสู้และรับท่านเป็นศิษย์ ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ให้..!
คนที่ไม่เข้าใจก็จะงงเป็นอันมากว่า หลวงปู่ปานมรณภาพไปนานจนป่านนั้นแล้ว ยังสามารถรับลูกศิษย์ได้ด้วยหรือ ? กระผม/อาตมภาพก็อยากจะเปรียบเทียบว่า หลวงพ่อวัดท่าซุงก็มรณภาพไป ๓๐ กว่าปีแล้ว แต่ถ้านึกอยากจะตีกบาลอาตมภาพเมื่อไร ท่านก็โผล่มาเมื่อนั้น..! เพราะฉะนั้น..เรื่องพวกนี้ต้องบอกว่า ถ้ามีบุญสัมพันธ์ มีกรรมสัมพันธ์กันมา เรื่องที่ไม่น่าเชื่อพวกนี้ก็สามารถบังเกิดขึ้นได้
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 26-09-2025 เมื่อ 01:18
|