ดูแบบคำตอบเดียว
  #4  
เก่า 25-09-2025, 00:13
เถรี's Avatar
เถรี เถรี is offline
ผู้ดูแลเว็บ - ยืนยันตัวตนแล้ว
 
วันที่สมัคร: Jan 2009
ข้อความ: 33,182
ได้ให้อนุโมทนา: 160,358
ได้รับอนุโมทนา 4,509,002 ครั้ง ใน 36,795 โพสต์
เถรี is on a distinguished road
Default

เพียงแต่ว่าพวกเราท่านทั้งหลายต้องพยายามวางกำลังใจให้เป็นอุเบกขาให้ได้ ไม่อย่างนั้นก็จะกลายเป็น "วิหิงสาวิตก" ก็คือคิดในการเบียดเบียนคนอื่น เป็นการก่อ "มโนกรรม" ให้เกิดขึ้น ถ้าพูดออกมาอย่างกระผม/อาตมภาพ ก็โดน "วจีกรรม" เข้าไปอีกอย่างหนึ่ง แต่ว่าพวกเราต้องแยกแยะให้ออกว่า อะไรหนัก อะไรเบา อะไรควร อะไรไม่ควร

ยกตัวอย่างก็คือพระภิกษุสามเณรของเราห้ามพรากของเขียว ซึ่งต้นเหตุก็คือพระภิกษุไปตัดกิ่งไม้ แล้วไปทำลายที่อยู่ของรุกขเทวดา องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าจึงทรงบัญญัติศีลว่า ไม่ให้พรากภูตคาม ก็คือสิ่งมีชีวิตในลักษณะพืชซึ่งเกิดขึ้น ตัวอย่างผู้ล่วงละเมิดแล้วต้องโทษก็คือเอรกปัตนาคราช ที่ไปทำใบต้นตะไคร้น้ำขาด แล้วไม่ได้แสดงคืนอาบัติ ต้องไปเกิดเป็นสัตว์เดรัจฉานคือพญานาค อยู่เป็นระยะเวลายาวนานนับพุทธันดร..!

คราวนี้คนรุ่นใหม่ ๆ ไม่รู้จัก "ต้นตะไคร้น้ำ" ก็เลยไปเขียนว่า "ตะไคร่น้ำ" ทำเอากระผม/อาตมภาพนึกถึงตอนที่ท่านปู่หมอชีวกโกมารภัจจ์ มาบอกสูตรยาล้างพิษให้ อย่างหนึ่งที่ท่านบอกก็คือ "ตะคร่าย ตะคร่าย " คนอินเดียพูดไทยได้ชัดแค่นั้น พอถามว่าใช่ตะไคร่น้ำหรือเปล่า ? เกือบจะโดนบาทาท่านเข้าไปแล้ว..! จนกระทั่งท่านบอกว่า "ไอ้ที่เราเอามากิน" เอ้า.. "เทา (ตะไคร่ผมนางเงือก)" บ้านเราก็กินได้ จนกระทั่งท่านต้องบอกว่าใส่แกง ถึงได้รู้ว่าคือต้นตะไคร้..!

เมื่อห้ามพรากภูตคาม แล้วท่านก็ปล่อยให้วัดรกจนเลี้ยงเสือได้ แบบนั้นก็คงไม่ใช่ จึงต้องรู้จักพิจารณา อะไรที่ทำให้วัด สะอาด สว่าง สงบ คนเห็นแล้วอยากเข้าวัด ถึงผิดพระวินัยก็ต้องทำ เพราะว่าการช่วยให้คนเข้าวัดมาสร้างความดี เป็นการลงทุนที่พอจะมีกำไร เราก็ยอมอาบัติไปแล้วกัน..!

จึงเป็นที่น่าเห็นใจ
โดยเฉพาะในยุคปัจจุบันของเรา ส่วนใหญ่การทำคลิปลงยูทูบต่าง ๆ มักจะใช้ AI อ่าน ซึ่งสร้างความบรรลัยให้กับภาษาของเราเป็นอย่างยิ่ง เพราะว่า AI ก็อ่านแบบ AI แต่เราอาจจะฟังไม่รู้เรื่อง เขาอ่านตามที่เขาเห็น

อย่างที่บอกทางในกูเกิ้ลแม็พ ซึ่งอ่านว่า "ไลแอ๊บคลองปราปา" ก็คือถนนเลียบคลองประปา นั่นขนาดภาษาอังกฤษ ยังอ่านได้แค่นั้นเอง ก็เลยกลายเป็นอะไรที่ถึงเวลาแล้ว มานั่งหัวเราะแทนที่จะโกรธ แล้วที่หนักกว่านั้นก็คือ เพิ่งจะรู้ว่าพวกนี้เขาฟังเราอยู่ทุกคำ เพราะว่าบางทีคุยกันไปคุยกันมา เจ้าเครื่องก็บอกว่า "ขอโทษ..ช่วยพูดใหม่ เพราะว่าฟังไม่ทัน" ดังนั้น..เวลาท่านบอกว่าต้องการอะไร จึงไม่ต้องแปลกใจว่าทำไมอยู่ ๆ มีโฆษณาของสิ่งนั้นโผล่ขึ้นมาให้ทันที..!

แต่ว่า
การที่ให้ AI เป็นคนบรรยายแทนเรา ทำให้การเสื่อมของภาษาเรารุนแรงชนิดถึงรากถึงโคน..! ฟังไม่รู้เรื่องยังไม่พอ วรรคตอนก็ใช้การไม่ได้อีกต่างหาก โดยเฉพาะได้ยินคำบรรยายในหนังซีรีส์จีนที่คนอื่นเขาเปิด อยู่ในลักษณะที่ตัวละครเขาหัวเราะ เจ้า AI อ่านว่า "ฮ่า ๆ ๆ ๆ ๆ" ได้อารมณ์มากเลย คือ อ่านตามตัวหนังสืออย่างเดียว อารมณ์ไม่มี อาจจะทำให้เด็กรุ่นหลัง ๆ ของเราทำอะไรลงไปโดยที่ไร้อารมณ์ประกอบก็ได้..!

ถ้าอยู่ในลักษณะนี้ ก็เกือบจะเป็นพระอรหันต์อยู่แล้ว เนื่องเพราะว่า
พระอรหันต์ท่านทำการต่าง ๆ โดยกิริยา ไม่มีสภาพจิตปรุงแต่ง ก็เลยไม่เป็นกรรม ชักจะไปไกลเกิน เดี๋ยวคนจะหาว่ากระผม/อาตมภาพไปยืนยันว่า AI เป็นพระอรหันต์อีก..!

สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้

พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันพุธที่ ๒๔ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................

เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง

จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม

แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 25-09-2025 เมื่อ 01:56
ตอบพร้อมอ้างอิงข้อความเดิม
สมาชิก 39 คน ได้กล่าว "อนุโมทนา" กับคุณ เถรี ในข้อความที่เขียนด้านบน
แสดง/ซ่อน รายชื่อผู้อนุโมทนา