แล้วบุคคลที่เข้าถึงอรหัตผล พ้นจากกองทุกข์ทั้งปวงโดยสิ้นเชิง ไม่มีสิ่งร้อยรัดผูกพันท่านไว้ได้ ไม่มีธุลีกิเลสใด ๆ แปดเปื้อนใจของท่านได้ ท่านจะมีความสุขขนาดไหน ?
แล้วองค์สมเด็จพระจอมไตรบรมศาสดาสัมมาสัมพุทธเจ้า ผู้เป็นครูของทั้งมนุษย์และเทวดาทั้งหลาย เป็นผู้นำพาเขาทั้งหลายเหล่านั้นให้ล่วงพ้นจากกองทุกข์ได้ พระองค์ท่านจะมีความสุขขนาดไหน ?
ถ้าเรารู้จักใช้ปัญญาพินิจพิจารณาเพียงเล็กน้อยแค่นี้ ความเคารพมั่นคงในพระรัตนตรัยก็จะเกิดขึ้นแก่เราทันที เราก็จะเป็นผู้ที่ไม่ล่วงเกินต่อพระรัตนตรัยด้วยกาย ด้วยวาจา ด้วยใจ ทั้งต่อหน้าและลับหลัง
ก็แค่เพิ่มความรู้สึกว่า "เราจะต้องตาย" เข้าไปในใจของเราว่า ความตายอยู่กับเราทุกลมหายใจเข้าออก หายใจเข้า..ถ้าไม่หายใจออกก็ตายแล้ว หายใจออก..ถ้าไม่หายใจเข้าก็ตายอีกเช่นกัน แต่ว่าถ้าตายลงไปแล้ว ขึ้นชื่อว่าการเกิดใหม่สำหรับเราจะไม่มี เราไม่ปรารถนาร่างกายที่เต็มไปด้วยความทุกข์นี้อีก ไม่ปรารถนาในการเกิดมาบนโลกที่เต็มไปด้วยความทุกข์ยากเร่าร้อนนี้อีก หากหมดอายุขัยตายลงไปก็ดี หรือเกิดอุบัติเหตุอันตรายใด ๆ จนถึงแก่ชีวิตก็ตาม เราขอไปพระนิพพานแห่งเดียว..!
ถ้าท่านทั้งหลายสามารถรักษากำลังใจแบบนี้เอาไว้ ช่วงเช้าสัก ๑๐ นาที ๑๕ นาที ก่อนนอน ๑๐ นาที ๑๕ นาที ถ้ารักษาไว้ได้มั่นคงทุกวัน ตายเมื่อไรท่านก็จะพ้นจากกองทุกข์เข้าสู่พระนิพพานได้
สำหรับวันนี้ก็ขอเรียนถวายพระภิกษุสามเณรของเรา และบอกกล่าวแก่ญาติโยมแต่เพียงเท่านี้
พระครูวิลาศกาญจนธรรม, ดร.
เสียงธรรมจากวัดท่าขนุน
วันอังคารที่ ๒๓ กันยายน พุทธศักราช ๒๕๖๘
(ถอดจากเสียงเป็นอักษร โดย เผือกน้อย)
__________________
........................
เกิดมาทั้งที เอาดีให้ได้ ตายไปทั้งที ฝากดีเอาไว้ อยู่ให้เขาเกรงใจ ไปให้เขาคิดถึง
จะเช มัตตา สุขังธีโร ปัญญาชน พึงสละสุขส่วนตน เพื่อสุขยิ่งใหญ่ของส่วนรวม
แก้ไขครั้งสุดท้ายโดย สุธรรม : 24-09-2025 เมื่อ 01:47
|